ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลเอฟเอคัพ 2021-22 ที่สนามเวมบลี่ย์ ระหว่างที่เจ้าชายวิเลียมเดินลงไปต้อนรับนักกีฬาทั้งสองทีม โดยมีกัปตันทีมแนะนำนักเตะของตน หลังเสร็จสิ้นเพลงชาติอังกฤษ God Save the Queen ก็เริ่มเล่น ขณะเดียวกันแฟนบอลลิวเอร์พูลก็เริ่มโห่ใส่เพลงชาติ ทำไมแฟนบอลลิเวอร์พูลถึงโห่ใส่เพลงชาติ เรามาลองย้อนหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้น วาทกรรมที่หนังสือพิมพ์เขียนถึงแฟนบอลลิเวอร์พูล รวมถึงสาเหตุต่างๆ ที่กลายมาเป็นชนวน
ทุกวันนี้ถ้าคุณบอกว่า คุณคือสเกาส์ ไม่ใช่คนอังกฤษ คุณจะถูกขังและติดคุก
ปลายเดือนพฤษภาคม 2015 รอบชิงชนะเลิศ โกปา เดล เรย์ ผู้คนเกือบ 100,000 คน อัดแน่นเต็มสนามคัมป์นู สนามเหย้าของทีมบาเซโลนา บรรยากาศในสนามเต็มไปด้วยความตึงเครียด ชาวคาตาลันซึ่งสนับสนุนบาร์เซโลนาและชาวบาสก์สนับสนุนสโมสรแอธเลติกโกบิลเบา ทั้งสองทีมกำลังไล่ล่ารางวัลอันทรงเกียรติอันดับสองของฟุตบอลในประเทศสเปน
ก่อนการแข่งมีการเล่นเพลงชาติ เสียงโห่ร้องและเสียงนกหวีดดังก้องไปทั่วสนาม นั่นคือความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์ระหว่างสองภูมิภาคกับรัฐบาลสเปน
ความพยายามที่จะขจัดวัฒนธรรมและภาษาของตนให้หมดไปนั้นไม่สามารถผสานกันได้ง่ายๆ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจสำหรับใครก็ตามที่ผู้สนับสนุนทีมเหล่านั้น และพวกเขาอาจถูกมองว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกับรัฐบาลสเปน
หากเราสามารถเข้าใจเรื่องนี้ได้ ก็ไม่มีเหตุผลใดที่ทุกคนในสหราชอาณาจักรที่มีความรู้พื้นฐานที่ดีสุดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของประเทศจะต้องตกใจ หรือกลัวสิ่งที่แฟนลิเวอร์พูลได้ทำสิ่งเดียวกันกับ ‘God Save The Queen’ ‘ ก่อนเกมเอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศที่เวมบลีย์
แฟนลิเวอร์พูลโห่เพลงชาติอีกครั้งก่อนเกมเอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศกับเชลซี
เป็นปกติที่ก่อนเกมการแข่งขันจะเริ่ม เพลงชาติจะบรรเลงตามธรรมเนียมในนัดชิงชนะเลิศที่เวมบลีย์ อย่างไรก็ตาม แฟนๆ ลิเวอร์พูลเป็นที่รู้จักกันดีว่าพวกเขามีธรรมเนียมในการโห่ใส่เพลง God Save the Queen ที่สนามฟุตบอลแห่งนี้
ความขุ่นเคืองนี้ (การโห่ใส่เพลงชาติ) เป็นการแสดงออกอย่างสันติ เนื่องจากความไม่พอใจทางการเมือง คนที่กล่าวหาว่าแฟนบอลลิเวอร์พูลทำไม่ถูกต้อง เป็นคำกล่าวหาที่น่าเศร้าในสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะในอังกฤษ คนที่ออกมาตำหนิเหตุการณ์นี้ส่วนใหญ่ ชอบอ้างว่าเป็นผู้ปกป้องเสรีภาพในการแสดงออก แต่พวกเขาจำนวนมากจงใจเลือกที่จะเพิกเฉยต่อเหตุผล และข้อเท็จจริงที่อยู่เบื้องหลังปรากฏการณ์นี้ แทนที่พวกเขาจะเดินเข้าไปในโลกออนไลน์เพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักของพวกเขา พวกเขากลับกล่าวหาอย่างเลื่อนลอย เช่นเดียวกับในสเปน
สถานการณ์เบื้องหลังเสียงโห่เพลงชาติในนัดชิงฟุตบอลเอฟเอคัพ 2021-22 มีทั้งเรื่องประวัติศาสตร์และการเมืองผสมอยู่ในเหตุการณ์นั้น มีเหตุผลมากมายที่ผู้คนจำนวนมากในเมอร์ซีย์ไซด์จะเอ่ยว่า
‘ฉันคือสเกาส์ไม่ใช่อังกฤษ’ – ‘Scouse not English’
Tweet
มีเหตุผลมากมายว่าทำไมแฟนลิเวอร์พูล และผู้คนในเมือง ไม่สามารถเชื่อมโยงกับเพลงชาติอังกฤษ ที่มาของสาเหตุที่ย่านเมอร์ซีย์ไซด์โห่ร้องเพลงชาติในช่วงครึ่งหลังของปี 1980 สามารถสืบย้อนไปถึงช่วงทศวรรษ 1980
เมืองลิเวอร์พูลได้รับการละเลยจากรัฐบาลฝ่ายอนุรักษ์นิยมอย่างเป็นระบบ พวกเขาอยู่ได้เพราะได้รับการอุปถัมภ์จากประชาชนจำนวนมากมานานหลายทศวรรษ ในช่วงที่มาร์กาเร็ต แทตเชอร์เป็นนายกรัฐมนตรี รัฐบาลของเธอได้วางแผนที่จะนำเมืองนี้ไปสู่สิ่งที่พวกเขาเรียกว่าการปกครองที่เสื่อมทราม: “พวกเขาจะไม่ลงคะแนนให้เราอยู่ดี ดังนั้น ไปตายเถอะ”
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประชาชนในเมอร์ซีย์ไซด์รู้สึกว่าพวกเขาได้รับการปฏิบัติจากรัฐบาลไม่ไดีพอ พวกเขารู้สึกถูกทอดทิ้ง หลักฐานสำคัญของความไม่เท่าเทียมเพิ่มมากขึ้นคือ ธนาคารอาหารนอกแอนฟิลด์และกูดิสัน ความสัมพันธ์ที่เย็นชาระหว่างเมืองลิเวอร์พูลกับประเทศ ซึ่งโยงไปถึงทีมชาติอังกฤษด้วย โดยที่คนใน Liverpool หลายคนไม่สนับสนุนทีมชาติอังกฤษในระหว่างการแข่งขันที่สำคัญเช่นยูโรหรือฟุตบอลโลก
หายนะที่ฮิลส์โบโรห์ ได้รับการปกปิดข้อเท็จจริงจากรัฐบาล โดยปัดความรับผิดชอบต่อการจัดการที่ล้มเหลวของรัฐและตำรวจผู้ดูแลสถานการณ์ ให้กลายมาเป็นความผิดของแฟนบอลผู้บริสุทธิ์ของลิเวอร์พูล ซึ่ง 97 คนเสียชีวิตจากการถูกเบียดเสียดจนหายใจไม่ออก ได้กลายเป็นชนวนการต่อสู้เพื่อเปิดเผยจข้อเท็จจริงที่ถูกปกปิดมานาน เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบระยะยาวต่อคนเมืองลิเวอร์พูลเป็นอย่างมาก การปกปิดนี้ยังคงสามารถเห็น สัมผัส และได้ยินได้ในการแข่งขันฟุตบอลและทั่วเมืองลิเวอร์พูลในขณะนี้
การแข่งขันกีฬาระดับท้องถิ่นเป็นส่วนสำคัญของแฟนฟุตบอลเสมอ เพลงที่ร้องเพื่อต่อต้านลิเวอร์พูลจากแฟนๆ ของทีมคู่แข่งก็มีพิษเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ‘ตกเป็นเหยื่อเสมอ’ เป็นคำพูดที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ที่ต้องการโฆษณาชวนเชื่อต่อเหตุการณ์ที่ฮิลส์โบโรห์ต่อไป ในขณะที่การเหยียดชนชั้น – มักรวมถึงคำว่า ‘bin dippers’ – ทำให้สถานะของชนชั้นแรงงานมีสถานการณ์ที่เลวร้ายลง ขณะที่คนอังกฤษหนึ่งในห้าต่างอยู่ในสถานะที่ยากจน
โชคดีที่ลิเวอร์พูลมีผู้จัดการทีม ที่ไม่ได้เก่งเฉพาะเรื่ีองฟุตบอลที่เขาถนัดเท่านั้น แต่เยอร์เก้น คล็อปป์ ยังเข้าใจคนในพื้นที่เมืองลิเวอร์พูล เข้าใจเอกลักษณ์ประจำภูมิภาค และมีความกล้าที่จะสนับสนุนแฟนบอลของเขาในการตอบโต้วาทกรรมที่แตกแยกเช่นนี้
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล Jurgen Klopp ได้รับการตั้งถามเกี่ยวกับการกระทำของกองเชียร์ Liverpool ซึ่งเขาตอบว่า: “ในสถานการณ์เช่นนี้ เป็นการดีที่สุดที่จะถามคำถามว่าทำไมมันถึงเกิดขึ้น? ผมรู้จักแฟนบอลของเราดีว่าพวกเขาจะไม่ทำถ้าไม่มีเหตุผล
“ผู้สนับสนุนส่วนใหญ่ของเราเป็นแฟนบอลที่ยอดเยี่ยม ฉลาดมาก ผ่านจุดต่ำสุด ผ่านจุดสูงสุด ทนทุกข์ไปด้วยกัน พวกเขาจะไม่ทำอย่างนั้นถ้าไม่มีเหตุผล นั่นคือสิ่งที่ผมรู้ บางทีเราควรถามคำถามนี้”
นี่เป็นสาเหตุที่แฟนบอลลิเวอร์พูลจำนวนมากไม่สนใจทีมชาติอังกฤษมากเท่ากับแฟนสโมสรอื่นๆ ทั่วประเทศ ในขณะที่แฟนทีมชาติอังกฤษจากสโมสรอื่นๆ จะสามารถตำหนิแฟนบอลลิเวอร์พูล ที่ไม่ต้องการเข้าร่วมกับคนกลุ่มเดียวกันที่เยาะเย้ยสภาพเศรษฐกิจของเมืองของพวกเขาได้หรือไม่?
ถ้าอยากร้องเพลงชาติก็ร้องไป ถ้าแฟนลิเวอร์พูลอยากโห่ก็ปล่อยพวกเขาทำ ยังไงก็เป็นเพลงห่วยๆ อยู่ดี