อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม เป็นเมืองที่ติดกับกรุงเทพฯ และเป็นอำเภอใหญ่ที่ครอบคลุมหลายตำบลในจังหวัดนครปฐม ทำให้ที่นี่มีความหลากหลายทั้งในด้านวัฒนธรรม ผู้คน ความเป็นอยู่ รวมถึงอาหารการกินที่มีให้เลือกมากมาย ในคอลัมน์ “ชิมกับเชฟ” วันนี้เราขอแนะนำร้านที่เพิ่งเปิดใหม่ในสามพรานอีกร้านหนึ่งที่มีความเป็นตัวของตัวเองในด้านรูปแบบอาหาร อาจจะเรียกได้ว่า บ้านเฮดเชฟ – BAAN HEAD CHEF บ้านหลังใหม่ของนักชิมที่กำลังมองหา อาหารสไตล์ยุโรป หรืออาหารไทย-จีน ที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ ส่วนรสชาติอาหารจะเป็นอย่างไรติดตามได้ในบทความด้านล่าง
อะไรคือแรงบันดาลใจจาก บ้านเฮดเชฟ
ทุกเมนูของร้านอาหาร บ้านเฮดเชฟ คือ Foods Inspiration ในเพจของร้านแนะนำเอาไว้ว่า อาหารที่อร่อยที่สุดในแบบ BAAN HEAD CHEF ไม่มีรูปแบบอาหารหรือส่วนผสมที่ตายตัว โดยจะมีการปรับและเปลี่ยนแปลงเป็นประจำ ทำให้ลูกค้าทุกคนสามารถทานอาหารที่บ้านเฮดเชฟได้บ่อยกว่าที่เคย นั่นหมายความว่ารสชาติของร้านมีการพัฒนาในทุกครั้งที่กิน แน่นอนว่าลูกค้าบางคนอาจจะชอบรสชาติที่เหมือนเคยไม่เปลี่ยนแปลง แต่ขณะเดียวกันรสชาติที่พัฒนาขึ้นของร้านทำให้ผู้ชิมรู้สึกได้ถึงความตั้งอกตั้งใจของเชฟ ที่ต้องการนำเสนออาหารที่คุณภาพ
แรงบันดาลใจของเชฟมาจากการทำ Chef’s Table ที่บ้านเชฟมาก่อน การทำ Chef’s Table ของเขาแตกต่างจากที่อื่นตรงที่ให้บริการลูกค้าตามที่ต้องการ ไม่ใช่เชฟทำอาหารที่เชฟต้องการจะทำ ส่งผลให้เชฟจากบ้านเฮดเชฟรู้อยู่เสมอว่าลูกค้าต้องการอะไร จนกลายเป็นที่มาของแนวคิด Foods Inspiration และ BAAN HEAD CHEF จนกลายมาเป็นคอนเซ็ปต์ของการเปิดร้านในวันนี้
การพบเจอ ความตั้งใจ และทุกคำขอของลูกค้า ทำให้เชฟมีแรงบันดาลใจที่จะส่งต่อทุกเมนูของ BAAN HEAD CHEF เป็นการสร้างประสบการณ์ให้ผู้ชิมอาหาร และส่งต่อความสุขให้ผู้ที่มาชิม ในทุกมื้อที่เสริฟให้กับลูกค้าของร้าน
บ้านเฮดเชฟ ความอร่อยที่พิถีพิถัน
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เราจะหาอาหารสไตล์ยุโรป หรือที่เรามักเรียกติดปากกันว่าอาหารฝรั่ง ที่มีรสชาติใกล้เคียงรสชาติดั้งเดิมกิน ยิ่งร้านในต่างจังหวัดด้วยแล้ว การจะเปิดร้านเหมือนในกรุงเทพฯ เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย ร้านที่มักโฆษณาว่ามีอาหาร ไทย จีน ฝรั่ง บริการส่วนใหญ่ก็มักจะฟิวชั่นให้ถูกปากคนไทย จนบางครั้งละเลยว่าประสบการณ์การชิม อาหารฝรั่งมีวัฒนธรรมที่แตกต่างจากอาหารไทย แน่นอนว่าการทำอาหารให้ถูกปากผู้ชิมก็เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องการตลาด แต่ประสบการณ์ของผู้ชิมก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน อาหารยุโรปจริงๆ มีส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้ชิมได้รับรสชาติใหม่ๆ ที่แตกต่าง
แน่นอนว่าการทำอาหารย่อมที่ต้องถูกปากผู้ชิม ทว่าท่ามกลางการเลือกสรรค์รสชาติเชฟแต่ละคนต่างก็ต้องมีจุดร่วมที่สร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้กับผู้ชิม จุดร่วมนั้นทั้งยากและต้องตัดสินใจว่าแต่ละร้านจะมีนโยบายอย่างไรเพื่อดึงลูกค้า และแน่นอนสิ่งเหล่านี้ไม่มีสูตรสำเร็จ ความอร่อยไม่ใช่แค่การชิมแล้วถูกปากเท่านั้น แต่ยังต้องสร้างจินตนการและเรียกความสร้างสรรค์ออกมาด้วย
วันที่เราไปชิมอาหารที่บ้านเฮดเชฟ เราไม่มีข้อมูลใดๆ มาก่อน เช่นเดียวกับนักผจญภัยที่แล่นเรือออกทะเล และหวังว่าเกาะข้างหน้าที่เราเห็นกลางทะเลจะมีของที่บริโภคได้
เมื่อแรกเข้ามาในร้านเราสังเกตว่าได้รับการตกแต่งอย่างเรียบง่าย แต่ดูดีให้บรรยากาศที่สบายๆ มากกว่าร้านหรู เราเลือกหาที่นั่งที่สบายๆ ภายในค่อนข้างกว้างใหญ่ และโล่งทำให้รู้สึกปลอดโปร่ง
เมนูของร้านไม่ได้อัดแน่นรายการอาหารมามากนัก เนื่องจากการเป็นเชฟเทเบิลมาก่อน แต่ก็แยกหมวดหมู่ได้ดี เราลองไล่ดูอาหารแนะนำ ไม่ว่าจะเป็นเมนูสลัด พาสต้ารสชาติต่างๆ รวมไปถึงสเต็ก สิ่งที่ดีมากๆ คือทุกเมนูมีรูปภาพให้ดูทำให้เราพอที่จะเลือกได้ตามที่เราจินตนาการหรือไม่ สิ่งที่เราเห็นมากๆ ก็คือความตั้งใจทีเดียว
อาหารจานแรกที่เราสั่ง สลัดซีซาร์ (Caesar Salad) ต่อมาคือ ปับปาเดเล่ (Pappardelle –Fresh pasta– Truffle bacon cream sauce) เราไล่ดูมีเมนูอาหารไทยที่น่ากินมากๆ ผมเลือก กุ้งทอดไฟระเบิด และเมนูใหม่ “หมูสะเต๊ะ อยุธยา”
ส่วนเมนูที่เราไม่ได้สั่งแต่น่ากิน (ที่ไม่สั่งเพราะกลัวกินไม่หมด) พาสต้ามีให้เลือกเยอะมากและน่ากินทั้งนั้น Pork with bulgogi Sauce พอร์คชอป ซอสบูลโกกิ มาคราวหน้าต้องสั่งแน่นอน เมนูแบบบ้านๆ ที่น่าลอง หมูสับผัดซีอิ้วดำ (สูตรโบราณกระเทียมพริกไทย) เมนูนี้น่าสนใจเพราะผมเองก็ชอบทำหมูสับผัดน้ำมันมะกอกให้ลูกกินตั้งแต่เด็ก และยังเป็นเมนูที่ทุกวันนี้ยังทำกินกับลูกเป็นประจำแม้จะโตไปทำงานแล้ว
เริ่มชิม
หลังจากที่เราได้สั่งอาหารไปแล้ว พนักงานเสิร์ฟก็นำขนมปังดินเนอร์โรลมาเสิร์พร้อมกับโคโคบัตเตอร์มาเรียกน้ำย่อย เรากำลังหิวพอดี จึงฉีกขนมปังซึ่งอุ่นกำลังดี เนื้อเหนียวนุ่ม ทาโคโคบัตเตอร์สีขาวซึ่งเชฟเป็นคนตีเอง เพียงแค่ลิ้นสัมผัสเท่านั้นแหละครับ ความอร่อยก็ลอยลิ่วออกมา โคโคบัตเตอร์หอมอร่อยบอกไม่ถูก ขนมปังก็เหนียวนุ่มกำลังดี เรียกได้ว่าเป้นเมนูที่ทำให้เราอยากอาหารจานต่อไปในทันที
รอได้ไม่นานซีซาร์สลัดก็มาเสิร์ฟ เราเห็นจานก็ร้องว้าวเพราะจัดจานได้สวยมาก Caesar Salad จานนี้เหมือนมีหิมะชีสปกคลุมเต็มจาน ประดับด้วยเบคอนทอดกรอบที่บอกได้ว่ากรอบอร่อย เบคอนไม่เค็มจนเกินไป เข้ากันดีกับผัก น้ำสลัดและชีสที่โรยมา สำหรับซีซาร์สลัดเมนูนี้ไม่ใช่เมนูดั้งเดิม แต่เป็นเมนูดัดแปลงที่น่าสนใจ ทางร้านบอกว่าเป็นหนึ่งในเมนูแนะนำ ที่ทานได้บ่อยๆ แบบไม่เบื่อซึ่งผมคิดว่าก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
ในที่สุด “หมูสะเต๊ะ อยุธยา” ก็มาเสริฟ เนื้อหมูหมักแบบดั้งเดิม เสียบไม้ย่างกะทิแบบโบราณ ทานคู่กับน้ำจิ้มถั่วสูตรอยุธยา รสชาติกลมกล่อม หอมกลิ่นเครื่องเทศ ซึ่งมาพร้อมกับขนมปังแผ่นย่างกรอบกำลังเหมาะดี เรามาเริ่มชิมที่หมูหมักซึ่งมีความนุ่มจากการหมักกะทิ แต่ไม่เลี่ยน กลิ่นหอมเครื่องเทศไม่จัดจนเกินไป ผมชอบน้ำจิ้มตรงที่ไม่ข้น ถั่วใช้การตำด้วยครกแทนเครื่องบด จึงทำให้สามารถเคี้ยวถ่วในน้ำจิ้มได้ กินคู่กับเครื่องเคียงแตงกวา พริกชี้ฟ้า หอมแดง
จานที่เรารอคอยก็มาถึงนั่นก็คือ ปับปาเดเล่ (Pappardelle –Fresh pasta– Truffle bacon cream sauce) ปับปาเดเล่ พาสต้าเส้นสดแบบเส้นใหญ่ ที่ทางร้านนวดแป้งจากอิตลีและรีดเส้นเอง การทำเส้นพาสต้าเองจึงทำให้พาสต้ามีเนื้อสัมผัสเฉพาะตัวไม่เหมือนกับเส้นกึ่งสำเร็จรูป สิ่งที่ได้คือความเหนียวนุ่มเด้ง เป็นพาสต้าเส้นใหญ่ที่ทานแล้วเบาไม่หนักท้อง เสริฟมาพร้อมกับ Truffle bacon cream sauce ครีมซอสสูตรพิเศษ ผัดกับเบคอนรมควันและน้ำมันทรัฟเฟิลแท้ ทางร้านยังบอกว่าใช้ทรัฟเฟิลสด นำมาสไลด์โรยด้านบน เพื่อเพิ่มความหอมละมุนให้กับเมนูนี้ สำหรับเมนูนี้ผมขอแนะนำทุกท่านให้ลอง ด้วยความอร่อยเนียนและหอมเห็ดทรัฟเฟิลมากๆ
อาหารจานสุดท้ายที่ผมเห็นหลายคนสั่งเมื่อมากินที่นี่ “กุ้งทอดไฟระเบิด” กุ้งทะเลสดๆ ตัวโตๆ เนื้อแน่น ผัดจนไฟลุก คลุกเคล้ากับซอสกระเทียมพริกไทยเข้มข้น โรยด้วยต้นหอมซอยและผักชี เมนุนี้ควรคู่กับการทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ จะทำให้อร่อยสุดๆ รสชาติเข้มข้น แต่กลมกล่อม ไม่เค็มหรือหวานไปในทางใดทางหนึ่ง รับรองว่าถ้าเอาข้าวคลุกกับน้ำซอสกินเท่าไหร่ก็ไม่พอ ส่วนตัวกุ้งแกะเปลือก เหลือหัวกับหางเอาไว้ กุ้งสุกกำลังดี ไม่สุกจนเกินไปจึงทำให้เมนูนี้สุดยอดระดับห้าดาว ซึ่งถ้าเราสั่งหมูสับผัดมาคู่กันน่าจะฟินไม่น้อย (คราวหน้าเจอกัน)
หลังจากที่เราอิ่มอาหารแล้วพนักงานเสริฟก็นำขนมหวานอภินันทนการจากเชฟ มันคือช็อกโคแลตบานาน่าวอล์นัทเค้ก ที่มีกลิ่นของกล้วยหอมอ่อนและครีมท็อปปิ้งนุ่มๆ เหมาะกับเป็นของหวานปิดท้ายของมื้อนี้เป็นอย่างดี
สถานที่ตั้ง บ้านเฮดเชฟ
บ้านเฮดเชฟตั้งอยู่ ถนนพุทธมณฑลสาย 5 หากมาจากกรุงเทพฯ ด้วยรถยนตร์สามารถมาได้สองทางหลักใหญ่ หนึ่ง คือ ถนนบรมราชชนนี พอมาถึง พุทฑมณทลสาย 5 ร้านอาหารจะอยู่ฝั่งซ้ายมือ สอง หากมาจากถนนเพชรเกษม ให้สังเกตด้านซ้ายมือจะเป็นร้านบางตะบูนทะเลเผาสายห้า ให้กลับรถตรงนี้จากนั้นอีกไม่กี่ร้อยเมตรก็ถึงบ้านเฮดเชฟ
บทสรุป
เรามาถึงตอนท้ายกันอีกครั้ง และเป็นทุกครั้งที่เราต้องมีคำตอบสำหรับผู้อ่าน
การมากินอาหารที่ร้าน บ้านเฮดเชฟ – BAAN HEAD CHEF เหมือนกิน Chef’s Table – เชฟเทเบิล ในราคาที่เป็นมิตร อาหารอยู่ในระดับยอดเยี่ยมมาก ยิ่งถ้าผู้อ่านไม่ได้อยู่ในศูนย์กลางร้านอาหารระดับหรูใจกลางกรุงเทพฯ นี่คือร้านจากย่านสามพราน นครปฐม ที่เหลือเชื่อมากร้านหนึ่ง มันเป็นประสบการณ์การกินอาหารยุโรป หรือ ไทย-จีน ที่พิถีพิถัน ปราณีต และคุณภาพ
ร้านบรรยากาศดี ห้องอาหารโอ่โถง ตกแต่งสวยงามแต่ไม่มากจนเกินไป คุณสามารถซึมซับบรรยากาศและอาหารได้อย่างมีความสุข สามารถนั่งคุยธุรกิจ หรือทานอาหารร่วมกันกับครอบครัว นี่คือร้านที่คุณต้องลองสักครั้ง แล้วคุณจะติดใจและกลับมาได้บ่อยๆ ด้วยรสชาติอาหาร และบรรยากาศที่แสนสบาย