หากจะกล่าวถึงจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน 1 ในนั้นก็คงหนีไม่พ้น พิษณุโลก หรือรู้จักกันในนาม เมืองสองแคว ที่นอกตัวเมืองมีธรรมชาติที่สวยงาม ทั้งน้ำตก ภูเขา และโบราณสถานมากมายรอต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคน รวมทั้งครอบครัวหรือเพื่อนๆ ให้ทุกคนได้ไปใช้วันหยุด นอกเหนือจากนั้นค่าครองชีพก็ยังถูกมาก บอกเลยว่าคุ้มแน่นอน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ผู้เขียนขอแนะนำ 10 ที่เที่ยวพิษณุโลก เอาใจสายประวัติศาสตร์และธรรมชาติ
1. วัดพระศรีรัตนมหาธาตุราชวรมหาวิหาร (วัดใหญ่)
ถ้าได้มีโอกาสมาท่องเที่ยวในจังหวัดพิษณุโลก สถานที่แรกที่ควรมาเช็กอินเลยก็คือ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุราชวรมหาวิหาร หรือชาวบ้านเรียกกันอย่างติดปากว่า วัดใหญ่ เป็นประดิษฐานขององค์พระประทาน “พระพุทธชินราช” หรือ “หลวงพ่อใหญ่” ซึ่งได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในประเทศไทยและเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของคนเมืองนี้ ตัวพระวิหารของพระพุทธชินราชถูกสร้างมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยได้รับการบูรณะให้มีสภาพดีมาตลอดจนถึงปัจจุบัน ภายในวิหารแม้ว่าคนจะเข้าไปกราบไหว้เยอะแค่ไหนก็ไม่รู้สึกอึดอัดแถมยังเย็นสบายตัว ทำให้จิตใจสงบเป็นอย่างมาก หากรู้สึกเป็นทุกข์หรือมีเรื่องไม่สบายใจในชีวิต เพียงแค่คุณก้าวเข้าไปในวิหารแห่งนี้ก็เหมือนได้หลุดพ้นจากความรู้สึกเหล่านั้นด้วยบารมีของหลวงพ่อใหญ่ และบริเวณด้านหลังของพระวิหารก็ยังมีพระพุทธรูปยืนปางห้ามญาติสูง 18 ศอก (พระอัฎฐารส) ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยเดียวกันกับพระพุทธชินราชอยู่อีกด้วย นอกจากนั้นยังมีพระพุทธรูปที่สำคัญอยู่อีกหลายองค์ที่สามารถเข้าไปกราบไหว้และขอพรได้ อย่างเช่น พระพุทธชินสีห์ พระศรีศาสดา และพระเหลือ
ในส่วนของการเดินทางนั้นสะดวกสบายมาก เพราะตัววัดอยู่ติดกับถนนใหญ่หาได้ง่ายอย่างแน่นอน เนื่องด้วยสถานที่แห่งนี้เป็นที่นิยมอย่างมากของนักท่องเที่ยว ทำให้บริเวณลานจอดรถมีรถติดและหาที่จอดได้ยาก ผู้เขียนจึงขอแนะนำว่าหากต้องการมากราบไหว้บูชาควรจอดรถให้ห่างจากตัววัดสักประมาณหนึ่งเพื่อความสะดวกสบาย สามารถเข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 06.00 น. จนถึง 18.00 น.
ข้อมูลเพิ่มเติม: วัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ พิษณุโลก
2. ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
หลังออกจากวัดใหญ่ สามารถเดินทางไปกราบไหว้ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ต่อได้เพราะอยู่ไม่ไกลกันมากนัก ซึ่งศาลนี้เคยเป็นพระราชวังจันทน์มาก่อนและเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาวเมืองสองแควตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบัน ภายในศาลมีพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรขนาดเท่าองค์จริงประทับนั่งอยู่ในพระอิริยาบถที่พระหัตถ์ทรงกำลังหลั่งทักษิโณทกเพื่อประกาศอิสรภาพแก่ปวงชนชาวไทย โดยสถานที่แห่งนี้นับว่าเป็นการค้นพบโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของจังหวัดเลยก็ว่าได้ หากต้องการเสริมความสิริมงคลในชีวิตก็สามารถเข้าไปกราบไหว้สักการะบูชากันได้นะคะ แถมยังทำให้รู้สึกสบายจิตสบายใจในการเดินทางตลอดทั้งทริปของการเที่ยวเมืองพิษณุโลกอีกด้วย
ที่ตั้ง: ถนนวังจันทน์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก
3. พระราชวังจันทน์
เมื่อได้กราบไหว้พระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรแล้ว สิ่งที่ไม่ควรพลาดคือการไปชม “พระราชวังจันทน์” หรือ “ศูนย์ประวัติศาสตร์พระราชวังจันทน์” ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์เมืองหน้าด่านของอยุธยาและประวัติของกษัตริย์ไทยในอดีต สถานที่แห่งนี้เป็นทั้งที่เสด็จพระราชสมภพและที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเมื่อคราวยังทรงดำรงตำแหน่งพระมหาอุปราช นอกจากนี้ยังมีอาคารจัดแสดงเนื้อหาเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับพระราชวังจันทน์อีกด้วย แม้ว่ากาลเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานแล้ว แต่พระราชวังจันทน์ยังมีกลิ่นอายความเป็นอดีตจากโบราณสถานขนาดใหญ่อีกหลายแห่งหลงเหลือให้ลูกหลานได้มารู้จักและรำลึกถึง บอกได้เลยว่าถูกใจสายประวัติศาสตร์อย่างแน่นอนค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม: ศูนย์ประวัติศาสตร์พระราชวังจันทน์
4. พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี
เมื่อเดินทางออกจากสถานที่แห่งประวัติศาสตร์อย่างพระราชวังจันทน์แล้ว ก็ยังมีอีกที่หนึ่งได้เก็บรวบรวมข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ของชาวเมืองพิษณุโลกและจังหวัดใกล้เคียงไว้ ซึ่งก็คือ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี นั่นเอง ถึงแม้จะไม่ได้เก่าแก่เท่าสถานที่ก่อนหน้านี้ แต่ก็ยังคงแสดงวิถีชีวิตชาวบ้านสมัยก่อนให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้และเห็นถึงความทรงจำอันทรงคุณค่าของชาวบ้านรวมนับหมื่นชิ้น โดยมี 3 อาคารหลักที่เปิดให้เข้าชมได้ อาคารแรกเป็นบ้านไม้ที่เจ้าของเดิมสร้างขึ้นหลังเหตุการณ์ไฟไหม้ย่านตลาดเมืองพิษณุโลกเมื่อพ.ศ. 2500 บ้านนี้ได้จัดแสดงรูปภาพเก่า ๆ ในสมัยก่อน ส่วนของอาคารสองจะเป็นการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้พื้นบ้านไทย แถมยังมีการจำลองส่วนต่าง ๆ ของบ้านเรือนในสมัยนั้นให้ดูอีกด้วย สุดท้ายในอาคารสามมีการจัดแสดงนิทรรศการชาวโซ่ง (ลาวโซ่งหรือไทยทรงดำ) เกี่ยวกับวิถีชีวิตและพิธีกรรมต่าง ๆ เช่น พิธีเสนเรือน หรือ เลี้ยงผีปู่ย่าตายาย เป็นต้น สำหรับผู้คนที่สนใจในเรื่องวิถีชาวบ้านในอดีต สถานที่แห่งนี้น่าจะตอบโจทย์ได้เลยทีเดียว ค่าธรรมเนียมเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ 50 บาทและเด็ก 25 บาท (ราคาทั้งคนไทยและชาวต่างชาตินะคะ)
ข้อมูลเพิ่มเติม: พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน จ่าทวี พิษณุโลก
[powerkit_posts]
5. อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง
หลังจากท่องเที่ยวในเมืองกันจนพอใจแล้ว เรามาออกนอกเมืองไปกางเต็นท์พักผ่อนกันได้ที่ อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง หรือรู้จักกันดีในนาม ทุ่งหญ้าสะวันนาแห่งเมืองไทย เพราะเป็นป่าโปร่งที่กว้างใหญ่ประกอบไปด้วยทุ่งหญ้าเป็นหลักคล้ายกับทุ่งสะวันนาในเขตภูมิภาคร้อนชื้น ทำให้เป็นอุทยานแห่งชาติขนาดใหญ่อันดับ 3 ของประเทศที่มีเนื้อที่ครอบคลุมทั้งพิษณุโลกและเพชรบูรณ์ ด้วยธรรมชาติอันสวยงามและสัตว์นานาชนิด สถานที่แห่งนี้ถือว่าน่าสนใจมากสำหรับผู้ชอบการเดินทางไปท่องเที่ยวให้จบภายในทริปเดียว ทุ่งแสลงหลวงนี้มีทั้งน้ำตกแก่งโสภา ถ้ำเดือน – ถ้ำดาวทุ่งแสลงหลวง ทุ่งนางพญาเมืองเลน แก่งวังน้ำเย็น ถ้ำพระวังแดง น้ำตกกุหลาบแดง ทุ่งโนนสน สะพานสลิง และเขาล่องเรือตาหมื่น โดยกิจกรรมแนะนำที่สามารถทำได้มี เดินศึกษาธรรมชาติ เที่ยวน้ำตก สำรวจถ้ำ ศึกษาสภาพธรณี ชมพรรณไม้ ส่องชีวิตสัตว์ป่า ดูดาว ปั่นจักรยานเสือภูเขา ล่องแก่ง และพายเรือ
ถือว่าเป็นสถานที่น่าไปท่องเที่ยวมาก ๆ เลย โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ จะมีอากาศหนาวเย็นมากเหมาะกับการไปพักผ่อนหย่อนใจสุด ๆ อาจมีค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่คนละ 20 บาท / เด็กคนละ 10 บาท / ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปเข้าฟรี และทางอุทยาน ฯ เองก็มีบ้านพักไว้บริการนักท่องเที่ยวจำนวน 10 หลัง พักได้หลังละ 6-14 คน ค่าธรรมเนียมที่พัก 900-2,400 บาทต่อคืน ค่ายพักแรมจำนวน 2 ค่าย พักได้ค่ายละ 60 คน ค่าธรรมเนียมที่พัก 600 บาทต่อคืน มีเต็นท์เล็กสามารถพักได้ 2 คน 30 บาทต่อคืน สะดวกสบายขนาดนี้ต้องไปกันสักครั้งแล้วล่ะค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม: อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง – Thung Salaeng Luang National Park
6. น้ำตกแก่งซอง
หากคุณยังไม่เต็มอิ่มกับการได้เล่นน้ำเย็น ๆ จากน้ำตกธรรมชาติที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ผู้เขียนขอแนะนำอีกสถานที่ไว้ให้ทุกคนได้ไปชุ่มฉ่ำกันคือ น้ำตกแก่งซอง เป็นธารน้ำซึ่งเกิดมาจากการลดระดับของลำน้ำเข็ก ทำให้เกิดเป็นน้ำตกที่เกิดจากการรังสรรค์ของธรรมชาติ เป็นที่นิยมของครอบครัวชาวพิษณุโลกที่จะพาลูก ๆ หลาน ๆ ไปผ่อนคลาย นอกจากนี้ยังมีสะพานแขวนไว้เดินชมทิวทัศน์ของแม่น้ำเข็ก สามารถเข้าไปยังหมู่บ้านตรงข้ามได้ ถ้าหากห่วงเรื่องความปลอดภัยบอกได้เลยว่าไม่ต้องกังวล เพราะทางน้ำตกแก่งซองมีเสื้อชูชีพ ห่วงยาง และอุปกรณ์อื่น ๆ ไว้บริการตลอดเวลาในราคาถูก และในส่วนของร้านอาหาร ร้านกาแฟก็มีให้บริการในราคาที่สมเหตุสมผลอีกด้วย ฤดูกาลที่นิยมท่องเที่ยวกันก็จะเป็นช่วงฤดูหนาว – ฤดูร้อน เพราะสายน้ำจะไหลเฉื่อย น้ำใส น่าลงเล่น ทำให้สามารถถ่ายรูปสวย ๆ ไปอวดเพื่อนได้ แต่ถ้าคุณอยากไปล่องแก่งลำน้ำเข็กก็ขอแนะนำว่าให้ไปในช่วงปลายฤดูฝนอย่างเดือนกันยายน-ตุลาคม
ข้อมูลเพิ่มเติม: น้ำตกแก่งซอง
7. จุดชมวิวเนินมะปราง
ว่ากันว่าหากได้มาเที่ยวเนินมะปรางแล้วไม่แวะมานั่งชิงช้าที่ต้นไม้รูปหัวใจก็เรียกได้ว่ายังมาไม่ถึง เพราะที่นี่คือ จุดชมวิวเนินมะปราง เมื่อได้ขึ้นไปยืนบนต้นไม้นี้ คุณจะสามารถมองเห็นทิวเขาและพื้นที่รอยต่อของ 5 จังหวัดตั้งแต่นครสวรรค์ ลพบุรี พิจิตร เพชรบูรณ์ และพิษณุโลกแถมยังมีกิจกรรมมากมายให้เลือกเล่น เช่น การโล้สลิงชิงช้า นั่งรถเที่ยวชมธรรมชาติ และวิถีชีวิตของชาวบ้านรักไทย โดยที่นี่นั้นมีบริการทั้งบ้านพัก ลานกางเต็นท์ และโฮมสเตย์อยู่หลายแห่งเลยทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้นถ้าคุณได้แวะมาพักแรมในช่วงฤดูฝนอาจได้ชมหิ่งห้อยที่หาได้ยากมาก ส่วนในช่วงปลายฝนต้นหนาวคุณจะได้เห็นทั้งทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าอันงดงามซึ่งหาไม่ได้จากในเมืองแน่นอนค่ะ
ที่ตั้ง: หมู่บ้านรักไทย ตำบลชมภู อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก
8. เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาท่าพล
เมื่อเดินทางเข้ามาในเนินมะปรางแล้ว อีกสถานที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาท่าพล เป็นเขาที่อยู่ในมหายุคพาลีโอซีน (Palaeocene) และอยู่ในยุคย่อยคาร์บอนิเฟอรัส (Carboniferus) มีอายุราว 360 – 286 ล้านปี มีจุดเด่นเป็นภูเขาหินปูนที่ถูกน้ำฝนกัดเซาะเป็นเวลานับล้านปีจนเกิดเป็นถ้ำต่าง ๆ มากมาย บริเวณแต่ละถ้ำจะมีหินงอกหินย้อยที่สวยงามน่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งถ้ำเหล่านั้นยังมีเรื่องราวและประวัติที่แตกต่างกัน สามารถรู้ได้จากป้ายหินที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าปากถ้ำของแต่ละที่ นอกจากนี้ยังพบซากดึกดำบรรพ์ของหอยและปะการังซึ่งบ่งบอกว่าสถานที่แห่งนี้เคยเป็นท้องทะเลมาก่อน นอกจากนั้นมีภาพเขียนสีรูปมือคนบนเพิงผาหินโดยสันนิษฐานว่าเป็นผลงานของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ผู้เคยอาศัยอยู่ที่นี่นั่นเอง ตลอดทางเดินชมธรรมชาติอาจได้เห็นร่องรอยของสัตว์ป่าต่าง ๆ เหมาะแก่การทัศนศึกษาเชิงนิเวศเป็นอย่างยิ่ง ฤดูกาลที่สามารถท่องเที่ยวได้นั้นไม่จำกัด แต่บางถ้ำอาจเข้าถึงไม่ได้ในช่วงฤดูฝน ถ้าหากสนใจที่จะมาผู้เขียนขอแนะนำว่าให้พกไฟฉายมาด้วย เพราะอาจได้ไปสัมผัสกับค้างคาวในถ้ำ สำหรับการเที่ยวชมจะเสียค่าบริการคนละ 20 บาท และหากต้องการพักแรมหรือทัศนศึกษาเป็นหมู่คณะก็สามารถติดต่อล่วงหน้าได้ที่สำนักงานเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาท่าพล
ข้อมูลเพิ่มเติม: เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาท่าพล
9. บ้านผารังหมี
หลังออกจากเขตล่าสัตว์ป่าถ้ำผาท่าพลแล้ว ก็ไม่ควรพลาดที่จะไปเยือน บ้านผารังหมี หรือเดิมชื่อ บ้านผาหลังหมี เพราะในสมัยก่อนเคยมีพรานมาล่าสัตว์แล้วเห็นหลังหมีหลัด ๆ ตรงแหล่งน้ำกลางหมู่บ้านเลยเป็นที่มาของชื่อนี้ ที่นี่เป็นชุมชนซึ่งโอบล้อมไปด้วยภูเขาหินปูนน้อยใหญ่ มีวิวทิวทัศน์ของทุ่งนาอันเขียวขจีสวยงาม บอกได้เลยว่าเมื่อได้มาสัมผัสกับบรรยากาศของที่นี่แล้วจะรู้สึกสดชื่นเป็นอย่างมาก จุดเด่นของสถานที่แห่งนี้คือวัดผารังหมีวนาราม โดยภายในวัดจะมีถ้ำที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปปูนปั้นปางไสยาสน์องค์ใหญ่ที่สุดของอำเภอเนินมะปราง (หลวงพ่อเพชรมณี) โดยมีบันไดสวรรค์ที่องค์เจ้าปู่ศรีสุทโธและเจ้าย่าศรีปทุมทอดกายเป็นบันไดให้ผู้มีศรัทธาขึ้นไปสักการะรอยพระพุทธบาทจำลองบนผาภายในชุมชนมีสาธิตการทำงานหัตถกรรมต่าง ๆ ที่ชวนน่าหลงใหล ไม่ว่าจะเป็นการทอเสื่อ การเย็บผ้า การทำไม้กวาด เป็นต้น นักท่องเที่ยวสามารถแวะชมงานเหล่านี้ได้ตลอดเส้นทางรอบหมู่บ้านอีกด้วย สำหรับการมาเยือนเป็นหมู่คณะ ที่นี่มีบริการรถรางพาเที่ยวชมและมีโฮมสเตย์รองรับนะคะ สายท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิตแฝงด้วยธรรมชาติต้องห้ามพลาด
ข้อมูลเพิ่มเติม: บ้านผารังหมีน่าอยู่
10. บ้านมุง
หากถามว่าสถานที่ฮอตฮิตที่สุดแถบชนบทในช่วงนี้ของจังหวัดพิษณุโลกคือที่ไหน คำตอบก็คงจะหนีไม่พ้น “บ้านมุง” หมู่บ้านที่ได้ชื่อว่าเป็นกุ้ยหลินเมืองไทย ซึ่งโอบล้อมไปด้วยทัศนียภาพของภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 360 ล้านปี และเต็มไปด้วยท้องทุ่งนาและสวนดอกไม้อันงดงามตระการตา ด้วยความที่ชุมชนแห่งนี้ยังคงมีวิถีชีวิตไม่ต่างไปจากอดีต ทั้งเรียบง่ายและอบอุ่น รวมไปถึงวิวทิวทัศน์อันเต็มไปด้วยความงามจากการรังสรรค์ของธรรมชาติ ทำให้สถานที่นี้ดึงดูดผู้คนที่โหยหาบรรยากาศและทัศนียภาพเหล่านั้นได้หลั่งไหลมาท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก โดยผู้เขียนจะขอแนะนำสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อได้ไปเยือนบ้านมุง ดังนี้
แลนด์มาร์กบ้านมุง: สถานที่แรกที่ควรไปเช็กอิน เพราะเป็นเหมือนจุดแรกในการเข้าสู่การท่องเที่ยวในหมู่บ้าน ซึ่งขอบอกเลยว่าใครที่เข้ามาเยือนแล้วไม่ได้ไปถ่ายรูปก็เหมือนมาไม่ถึงบ้านมุงค่ะ
แคมป์หมาบ้าใจดี: เป็นสถานที่ที่น่ากางเต็นท์พักผ่อนสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสใกล้ชิดกับธรรมชาติ เพราะอยู่ค่อนข้างใกล้เขามาก แถมยังมีมุมให้ถ่ายรูปเก๋ ๆ อีกด้วย โดยจะเสียค่าเข้าเพียงคนละ 10 บาท ทางแคมป์มีบริการอาหารและเครื่องดื่มให้นั่งทาน สำหรับผู้ที่ต้องการพักกับทางแคมป์จะต้องจองล่วงหน้าก่อนนะคะ
ฮักเขาคาเฟ่ & โฮมสเตย์ เนินมะปราง: คาเฟ่ที่ทำออกมาได้สวยเก๋ กว้างสุดอะไรสุด เรียกได้เลยว่าเหมาะสำหรับสายถ่ายรูปมาก ๆ มุมถ่ายรูปมีให้เลือกหลายแบบหลายสไตล์ คุณจะได้รูปสวย ๆ ไปอวดเพื่อน ๆ แน่นอนค่ะ แถมยังมีที่พักให้นอนชมวิวเขาอีกด้วย ค่าเข้าก็เพียงคนละ 10 บาทเท่านั้น
บ้านไร่ภูตะวัน: ถือได้ว่าที่นี่เป็นสวนดอกไม้สวยงามในหุบเขาอันเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์เลยก็ได้ แถมยังมีที่พักพร้อมสถานที่กางเต็นท์อีกด้วย มุมถ่ายรูปก็โดนใจ โดยจะเสียค่าเข้าชมคนละ 10 บาท นอกจากนั้นทางแคมป์ก็มีบริการอาหารและเครื่องดื่มให้นั่งทานด้วยนะคะ
น้ำตกขุนห้วยเทิน: ถ้าไปเยือนไร่ภูตะวันก็ไม่ควรพลาดน้ำตกแห่งนี้ เพราะว่าอยู่ห่างกันแค่ไม่เกิน 200 เมตร หลังรู้สึกร้อน ๆ จากแสงแดด เราก็มุ่งตรงไปเล่นน้ำตกธรรมชาติอันเย็นฉ่ำถึงใจกันเถอะค่ะ
จุดชมวิวบริเวณเขาน้อย 360 องศา: เป็นพื้นที่ที่มีดอกไม้ซึ่งถูกปลูกไว้อย่างสวยงามมาก มีดอกไม้หลากหลายชนิดรอให้ทุกคนไปถ่ายรูปคู่ด้วยแบบฟีลสาวน้อยแสนร่าเริง แถมยังมีเขาลูกเล็กซึ่งทุกคนสามารถปีนขึ้นไปถ่ายรูปได้อีกด้วย โดยมีค่าบำรุงสถานที่ 10 – 20 บาท
จุดชมค้างคาว บ้านมุง: เป็นจุดที่จะคึกคักกันในช่วงเย็น เพราะสามารถมองเห็นฝูงค้างคาวนับล้านตัวที่ออกมาหากินนั่นเอง โดยชาวบ้านจะเรียกเจ้าพวกนี้ว่า “อีเกีย” บอกได้เลยว่าอาจจะต้องใช้ดวงกันสักหน่อยเพราะบางวันน้อง ๆ ก็ไม่ออกมา
ที่ตั้ง: ตำบลบ้านมุง อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับสถานที่ท่องเที่ยวในพิษณุโลกที่ได้แนะนำไป ถูกอกถูกใจสายประวัติศาสตร์และธรรมชาติกันบ้างไหมคะ โดยในทุก ๆ พื้นที่มีเรื่องราวและกลิ่นอายความน่าสนใจที่แตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้น ถ้าคุณอยากไปผจญภัยสู่ที่ใหม่ ๆ ก็สามารถเก็บเมืองนี้ไว้เป็นตัวเลือกแล้วแวะมาเยี่ยมเยือนเมืองสองแควนี้กันได้ รับประกันว่าจะเที่ยวจบภายใน 3 วัน 2 คืนได้อย่างแน่นอน โดยสถานที่ที่ผู้เขียนแนะนำว่าห้ามพลาดคือ วัดใหญ่ อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง และบ้านมุง ค่ะ สุดท้ายนี้ สำหรับผู้คนที่กำลังออกมาท่องเที่ยวกันในวันหยุด ก็ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะคะ
อ้างอิง
วิกิพีเดีย: วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร
Amazing Thailand: ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ศูนย์มานุษยวิทยาสิริธร: พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี
Museum Thailand: พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี
Kapook: อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง
วิกิพีเดีย: อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง
สำนักอุทยานแห่งชาติ: อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง
True ID: น้ำตกแก่งซอง ที่เที่ยวพิษณุโลก
True ID: จุดชมวิวเนินมะปราง ที่เที่ยวพิษณุโลก
แนะนำแหล่งท่องเที่ยวเนินมะปราง: เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาท่าพล
Amazing Thailand: เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาท่าพล
ไปด้วยกัน: เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาท่าพล เนินมะปราง พิษณุโลก
Thailand Tourism Directory: ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี บ้านผารังหมี