กาชาโดคุโระ (Gashadokuro) ตำนานปิศาจโครงกระดูกยักษ์แห่งประเทศญี่ปุ่น

ตำนานปิศาจ ถูกเล่าขานมาอย่างยาวนานทั่วทุกมุมโลกจนกลายเป็นความเชื่อสืบทอดกันมา วันนี้ผู้เขียนจะมาพูดถึงหนึ่งใน ตำนานปิศาจญี่ปุ่น เลื่องที่มีชื่อว่า กาชาโดคุโระ
#image_title

ตำนานภูตผีปิศาจ หรือ เรื่องลี้ลับ นั้นเป็นสิ่งที่มีมาอย่างยาวนานทั่วทุกมุมโลกและหลายครั้งเรื่องราวเหล่านี้ก็ได้ถูกเล่าขานจากรุ่นสู่รุ่นจนกลายเป็นความเชื่อที่สืบทอดกันมา วันนี้ผู้เขียนจะมาพูดถึงหนึ่งในตำนานปิศาจเลื่องชื่อตนหนึ่งของประเทศแดนอาทิตย์อุทัยที่มีชื่อว่า กาชาโดคุโระ หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า ปิศาจโครงกระดูกยักษ์

กาชาโดคุโระ (Gashadokuro) คืออะไร

กาชาโดคุโระ คือ ปิศาจที่เกิดจากวิญญาณของบรรดาผู้เสียชีวิตที่ได้รับผลกระทบจากภัยสงครามต่าง ๆ ทั้งในสนามรบหรือหมู่บ้านที่แร้นแค้น ทำให้วิญญาณของผู้เสียชีวิตเหล่านี้ไม่ได้รับการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอย่างถูกต้องและค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นวิญญาณที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นและความเจ็บปวดก่อนจะรวมตัวกันจนกลายเป็นปิศาจโครงกระดูกยักษ์ ขนาดใหญ่ที่ไล่ล่ากลืนกินสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ

กาชาโดคุโระนั้นมีขนาดตัวใหญ่มากกว่า 10 เมตร มันสามารถล่องหนได้และกินเลือดเป็นอาหาร ในอดีตเจ้าปิศาจโครงกระดูกยักษ์จะปรากฏกายในยามค่ำคืนและเดินไปเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมาย คอยจับนักเดินทางที่เดินทางเพียงลำพังกิน แต่บางครั้งมันก็จะปรากฏกายในยามเช้า คอยหลบซ่อนตามพุ่มไม้รอให้มีเหยื่อหลงเข้ามา

กาชาโดคุโระนั้นมีสัญญาณอย่างหนึ่งที่จะแสดงถึงการปรากฏตัวของมันคือ เสียงร้องอันหิวโหยและเสียงกระทบของโครงกระดูกที่เกิดจากการเคลื่อนไหว เจ้าปิศาจตัวนี้เป็นอมตะทำให้ไม่มีวิธีที่จะปราบมันลงได้ วิธีเดียวที่จะทำให้หายไปคือการรอคอยเวลาจนกว่าความแค้นอาฆาตที่เป็นแรงขับเคลื่อนหลักของปิศาจตนนี้จะหมดลง ส่วนสิ่งที่จะช่วยรอดพ้นในยามที่ต้องเผชิญหน้ากับมันคือเครื่องรางจากความเชื่อทางศาสนาชินโตที่มีพลังในการขับไล่สิ่งชั่วร้าย ซึ่งชาวญี่ปุ่นเชื่อว่ามันสามารถคุ้มครองให้พวกเขาปลอดภัยจากการเจอกาชาโดคุโระได้

ตำนานของกาชาโดคุโระ

เรื่องราวของกาชาโดคุโระนั้นถูกเล่าขานไว้อย่างมากหลาย แต่ตำนานเก่าแก่ที่สุดของปิศาจตัวนี้นั้นเกิดในสมัยที่มีการก่อกบฏของขุนนางไทระ โนะ มาซาคาโดะ แม้ในท้ายที่สุดเขาจะไม่สามารถก่อกบฏได้สำเร็จและถูกสังหารลง แต่เจ้าหญิงทาคิยาฉะลูกสาวของซามูไรท่านนี้ซึ่งได้ถูกขนานนามว่าเป็นแม่มดที่มีชื่อเสียงแห่งยุคก็ได้ทำการอัญเชิญปิศาจโครงกระดูกยักษ์อย่างกาชาโดคุโระออกมาสร้างความวุ่นวายแก่ประเทศต่ออยู่ดี โดยได้มีนักวาดนามว่า อุตากาวะ คุนิโยชิ ได้วาดภาพประกอบตำนานบทนี้เอาไว้ด้วย

ตำนานของกาชาโดคุโระ ตำนานปิศาจ
ตำนานปิศาจญี่ปุ่น ปิศาจโครงกระดูกยักษ์
ปิศาจ ปีศาจภูติผีปิศาจ ผีญี่ปุ่น

ต่อมาได้มีการนำเรื่องราวของปิศาจตนนี้เผยแพร่สู่โลกกว้างครั้งแรกในปี ค.ศ.1966 ผ่านบทความในนิตยสาร “Bessatsu Shoujo Friend” โดย ไซโตะ โมริฮิโระ ซึ่งบทความก็ได้รับความสนใจอย่างแพร่หลายจนมีการเขียนบทความในทำนองเดียวกันนี้ขึ้นมาอีกหลายครั้ง 

ทั้งภาพวาดและตำนานที่เล่าขานมานั้นล้วนอธิบายภาพลักษณ์ของเจ้าปิศาจตัวนี้เป็นสิ่งมีชีวิตร่างกายเป็นโครงกระดูกขนาดใหญ่ เรื่องราวเหล่านี้เองก็เลยทำให้กาชาโดคุโระกลายเป็นหนึ่งในตำนานที่มีชื่อเสียงอีกเรื่องหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นจนถึงปัจจุบัน 

ความเชื่อเกี่ยวกับกาชาโดคุโระในวัฒนธรรมอื่น ๆ

อย่างที่ได้กล่าวไว้ว่า ตำนานภูตผีหรือเรื่องลี้ลับนั้นเป็นสิ่งที่มีมาอย่างยาวนานทั่วทุกมุมโลก ทำให้หลายคนอาจตั้งข้อสงสัยขึ้นมาว่า จะมีความเป็นไปได้ไหมที่เจ้าปิศาจตัวนี้จะถูกเล่าขานด้วยชื่ออื่นและอาศัยอยู่ที่เขตประเทศนอกญี่ปุ่น ด้วยเหตุนี้ทางผู้เขียนจึงได้ทำการศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นนี้และได้ทราบว่าเจ้ากาชาโดคุโระหรือปิศาจร้ายโครงกระดูกยักษ์ของเรานั้นมีอยู่แค่ที่ประเทศญี่ปุ่นที่เดียวเท่านั้น 

แม้อาจจะเป็นเรื่องน่าเสียดาย ทว่าในต่างประเทศนั้น ถึงจะไม่มีปิศาจตัวโตคล้ายคลึงกับเจ้าโครงกระดูกยักษ์ตนนี้ แต่ผู้เขียนก็ได้พบว่ามีปิศาจในหลายประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความดุร้ายที่สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้บริสุทธิ์ไม่แพ้กัน จึงได้ทำการหยิบเรื่องราวของมันมานำเสนอให้แก่ผู้อ่านได้อ่านกันด้วย

อาทาเซีย (Átahsaia)

อาทาเซีย Átahsaia ตำนานปิศาจ ตำนานปิศาจญี่ปุ่น ปิศาจโครงกระดูกยักษ์ ปิศาจ ปีศาจภูติผีปิศาจ ผีญี่ปุ่น

ยักษ์กินคนตามตำนานความเชื่อของชาวซูนิ ชนพื้นเมืองบริเวณอเมริกาใต้ อาทาเซียถูกจัดว่าเป็นปิศาจที่มีกายละเอียด มีรูปร่างใหญ่ ผมหงอกขาวฟูคล้ายกับขนแผงคอสัตว์ ผิวหนังหยาบกร้านเป็นตะปุ่มตะป่ำ ดวงตาเบิกกว้างไม่กะพริบ มีเขี้ยวแยกออกมาจากปากและมีกรงเล็บที่ยาว มันมีอาวุธคือขวานหิน มีดหิน และ ธนูไม้โอ๊ก

ตำนานของอาทาเซียนั้นมีหลายเรื่อง แต่ทุกเรื่องล้วนถูกเล่าไปในทิศทางเดียวกันถึงความดุร้ายกระหายในเลือดเนื้อของมนุษย์ ทำให้เจ้ายักษ์ตัวนี้เป็นตัวแทนของเรื่องราวที่พ่อแม่ชาวซูนินำมาสอนลูกหลานตัวเองให้อยู่ในโอวาท จะได้ไม่พลาดพลั้งไปพบเจอกับอันตราย

บาบา ยาก้า (Baba Yaga)

บาบา ยาก้า Baba Yaga ตำนานปิศาจ ตำนานปิศาจญี่ปุ่น ปิศาจโครงกระดูกยักษ์ ปิศาจ ปีศาจภูติผีปิศาจ ผีญี่ปุ่น

บาบา ยาก้า หรือ แม่มดเฒ่า เป็นตำนานพื้นบ้านของชาวสลาฟ เธอเป็นหญิงชราที่อาศัยอยู่ในกระท่อมกลางป่าที่มีขาไก่เป็นคานบ้านงอกออกมา ในตอนที่เธอออกจากบ้าน เธอจะขี่ครกโม่โดยที่มือข้างหนึ่งจะถือสาก ส่วนมืออีกข้างของเธอนั้นจะถือไม้กวาดเพื่อทำลายร่องรอยการเดินทางของเธอ

โดยตำนานของแม่มดเฒ่ามีหลายตำนานที่ถูกเล่าเอาไว้ซึ่งในแต่ละเรื่องก็มีเนื้อหาแตกต่างกันไป แต่เรื่องราวของเธอนั้นมีจุดร่วมที่คล้ายกันคือ นางอาจจะช่วยเหลือหรือไม่ก็จับคนที่หลงเข้ามาในป่าของเธอกินเป็นอาหาร ซึ่งขึ้นอยู่ความพึงพอใจของเธอ

เวนดิโก (Wendigo)

เวนดิโก Wendigo ตำนานปิศาจ ตำนานปิศาจญี่ปุ่น ปิศาจโครงกระดูกยักษ์ ปิศาจ ปีศาจภูติผีปิศาจ ผีญี่ปุ่น

สิ่งมีชีวิตตามตำนานชนพื้นเมืองอเมริกัน เป็นปิศาจแห่งพงไพรซึ่งอาศัยสิงร่างของมนุษย์เพื่อกินเนื้อเป็นอาหารไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์หรือมนุษย์ด้วยกันเอง โดยเวนดิโกนั้นมีรูปร่างสูง ร่างกายผอมแห้งติดกระดูก ตาลึกโบ๋ ริมฝีปากแห้ง มีเขี้ยวและเล็บที่ยาว พวกมันจะมีกลิ่นตัวที่รุนแรงเหมือนกับศพ มิหนำซ้ำมันยังสามารถเติบโตขึ้นได้เรื่อย ๆ จากการกินเนื้อของมนุษย์

เวนดิโกนั้นเป็นสิ่งที่มีชีวิตที่มักจะเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนักเดินป่าในอเมริกาตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน จึงทำให้มันเป็นปิศาจที่ไม่ได้มีอยู่เพียงแค่เรื่องเล่าหรือตำนานเฉกเช่นปิศาจในตำนานอื่น ๆ 

พิชาชา (Pishacha)

พิชาชา Pishacha ตำนานปิศาจ ตำนานปิศาจญี่ปุ่น ปิศาจโครงกระดูกยักษ์ ปิศาจ ปีศาจภูติผีปิศาจ ผีญี่ปุ่น

ปิศาจกินคนจากตำนานความเชื่อของศาสนาฮินดูในประเทศอินเดีย เป็นปิศาจที่มีลักษณะผิวคล้ำ ตาแดง เส้นเลือดปูดขึ้นตามร่างกาย โดยมักจะอาศัยอยู่ในที่มืด รกร้าง ไม่ก็ตามเตาเผาศพ เป็นปิศาจที่ไม่ทราบจุดกำเนิดแน่ชัด บางตำนานกล่าวว่ามันเกิดจากพระพรหม บางตำนานก็บอกว่าเป็นตัวแทนของสิ่งที่เกิดจากความโกรธ จิตไม่บริสุทธิ์ทั้งหลาย พิชาชานั้นนอกจากจะชอบกินมนุษย์แล้วมันยังชอบพลังงานด้านลบของมนุษย์อีกด้วย พวกมันจะครอบงำและค่อย ๆ ล่อลวงให้เหยื่อหลงผิดไปสู่เส้นทางที่ไม่ถูกต้อง 

ตัวตนของพิชาชาเป็นปิศาจที่อยู่กึ่งกลางระหว่างสวรรค์และนรก ทำให้มันไม่สามารถไปผุดไปเกิดได้ เป็นสาเหตุที่ต่อให้สามารถทำลายกายหยาบของพวกมันได้ วิญญาณของพวกมันก็อาจจะยังคงอยู่ 

ในยุคสมัยนี้บางตำนานก็ถูกเล่าขานเหลือเป็นเพียงเรื่องเล่าหรือนิทานที่ไม่มีอยู่จริง กลายเป็นตำนานพื้นบ้านที่ค่อย ๆ ถูกลืมไปตามกาลเวลา เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของกาชาโดคุโระ ที่ในปัจจุบันผู้คนกล่าวว่าไม่มีใครสามารถพบเห็นมันได้อีก เพราะสภาพสังคมปัจจุบันที่ไม่มีสงครามและความแร้นแค้น ที่เป็นปัจจัยหลักในการถือกำเนิดปิศาจตัวนี้ ทำให้มันหลงเหลือเพียงแค่ตำนานเล่าขานที่ส่งต่อกันมา จากอดีตจนไปสู่รุ่นต่อรุ่น แต่หากคิดว่าตำนานนี้เป็นเรื่องจริงและมันยังคงมีตัวตนอยู่ในยุคปัจจุบัน เจ้าปิศาจโครงกระดูกนี้คงเป็นภัยร้ายไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน

อ้างอิง:

Wikipedia: Takiyasha the Witch and the Skeleton Spectre

Wikipedia: Gashadokuro

Doodido: ตำนานกาชาโดคุโระ โครงกระดูกยักษ์ยามราตรี

Postjung: กาชาโดคุโระ ผีโครงกระดูกผู้หิวโหยเลือดเนื้อชั่วนิรันดร์แห่งประเทศญี่ปุ่น

PEN: Gashadokuro, the Legend of the Starving Skeleton

Wikipedia: Átahsaia

Wikipedia: Baba Yaga

World History Encyclopedia: Baba Yaga

Wikipedia: เวนดิโก

Facing History & Ourself: The Deeper Significance of Wendigo Stories

Wikipedia: Pishacha

อมรณา: พิชาชา (PISHACHA) ผีกินเนื้อผู้ล่อลวงมนุษย์สู่ความวิกลจริตแห่งประเทศอินเดีย

[block_content id=”25257″]
Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *