บทความนี้นำเสนอ เรื่องย่อ Othello บทละคร โดย William Shakespeare เขียนขึ้นในปี ค.ศ. 1604 โอเธลโล เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักที่ล้มเหลวเพราะความอิจฉา ซึ่ง วิลเลียม เชคสเปียร์ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่อง “Un Capitano Moro” (A Moorish Captain) เขียนโดย Giovanni Battista Giraldi Cinthio ในปี ค.ศ. 1565
Table of Contents
สรุปเนื้อหาของเรื่อง
เรื่องราวของโอเธลโลเกิดขึ้นในสองสถานที่สำคัญนั่นก็คือ เวนิสและไซปรัส ตัวละครหลักคือ Othello นายพลผิวคล้ำ จากกองทัพเวนิส เขาแต่งงานอย่างลับๆ กับ เดสเดโมนา หญิงชนชั้นสูง สร้างความไม่พอใจให้กับ บราบันติโอ—พ่อของเธอ ส่วนอิอาโกเป็นนายทหารคนสนิทของโอเธลโล เขาแอบรู้สึกริษยาความสำเร็จของโอเธลโล
ด้วยความริษยา อิอาโกวางแผนการร้าย โดยใช้ความไม่มั่นใจในตัวเองของโอเธลโลเป็นเครื่องมือ เพื่อปลูกความไม่ไว้วางใจของโอเธลโลต่อเดสเดโมนา ทำให้เขาเชื่อว่าเดสเดโมนาแอบนอกใจไปคบกับคาสซิโอนายทหารคนสนิทอีกคน แผนการร้ายนี้เพื่อทำลายโอเธลโลไปสู่ด้านมืด
แผนการของอิอาโก ประสบความสำเร็จ ความไว้ใจของโอเธลโล ที่มีต่อเดสเดโมนาลดน้อยลง จนกลายเป็นความสงสัยและหวาดระแวง เดสเดโมนาพยายามพิสูจน์ความรักและความบริสุทธิ์ของตัวเอง แต่โอเธลโลกลับเชื่อมั่นในคำโกหกของอิอาโกมากกว่า ในที่สุดโอเธลโลจึงสังหารเดสเดโมนา ด้วยความโกรธแค้นและหึงหวง
หลังจากนั้น โอเธลโลเพิ่งรู้ตัวว่าถูกหลอก ด้วยภาวะที่สูญเสียหญิงคนรักอย่างสุดซึ้ง โอเธลโลจึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย เพราะไม่สามารถแบกรับความผิดของตัวเอง
โอเธลโลสะท้อนให้เห็นถึงธรรมชาติของความเป็นมนุษย์ ผ่านธีมของความหึงหวง การหลอกลวง และพลังทำลายล้างในด้านมืด บทละครเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ ถึงผลกระทบที่เลวร้ายจากความหึงหวง และความความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
เชคสเปียร์สร้างสรรค์ตัวละครที่มีความซับซ้อนอีกครั้ง ตัวละครจึงมีแรงจูงใจต่อการกระทำที่ส่งผลถึงผู้อ่าน แม้เวลาจะผ่านไปหลายร้อยปี เขาทำให้เรื่องราวของ “Othello” อยู่เหนือกาลเวลา โดยเฉพาะบทละครที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความเปราะบางของความรัก รวมถึงการชำแหละถึงด้านมืดที่ซ่อนอยู่ในจิตใจมนุษย์
วิเคราะห์ตัวละคร
Othello
โอเธลโลเป็นนายพลผู้สูงศักดิ์และน่านับถือแห่งกองทัพเวนิส เป็นที่รู้จักในเรื่องความกล้าหาญ มีความสามารถในการนำทัพในสนามรบ อย่างไรก็ตาม เขาก็ตกเป็นเหยื่อของความหึงหวงและความไม่มั่นใจ โดยเฉพาะในเรื่องการแต่งงานกับเดสเดโมนา แม้ว่าเขาจะรักเธอมากเพียงใด แต่ความไม่มั่นคงในเรื่องเชื้อชาติที่ฝังลึกในใจ กลับทำให้อิอาโกใช้ประโยชน์จากความไม่มั่นคงนั้น นำโอเธลโลไปสู่การพังทลายของจิตใจ จนเขาจมดิ่งสู่ความบ้าคลั่งและความสิ้นหวังอันน่าเศร้า
Desdemona
เดสเดโมนาหญิงสาวที่มีคุณธรรม จงรักภักดี เธอรักโอเธลโลอย่างสุดซึ้ง ในบทละครบรรยายเอาไว้ว่าเธอเป็นหญิงสาวไร้เดียงสา ใจเปี่ยมด้วยความบริสุทธิ์ มีความซื่อสัตย์ต่อสามี แม้จะมีความรักและความภักดีที่มั่นคง แต่เดสเดโมนากลับตกเป็นเครื่องมือของอิอาโก เธอกลายเป็นเหยื่อที่ถูกกล่าวหาว่านอกใจโอเธลโล สุดท้ายถูกโอเธลโลสังหารด้วยความหึงหวง
Cassio
แคสสิโอนายทหารหนุ่มอันทรงเกียรติของกองทัพเวนิส ฝีมือทางด้านการต่อสู้ของเขาเป็นที่ประจักษ์ ด้วยจงรักภักดีต่อโอเธลโล จึงทำให้เขายึดมั่นต่อความถูกต้องในทุกเรื่อง แม้ว่าเขาจะถูกดึงเข้าไปพัวพันกับแผนการร้ายของอิอาโกโดยไม่รู้ตัวก็ตาม ในตอนจบของเรื่องโอเธลโล แคสสิโอต้องพบกับอุปสรรคและถูกกล่าวหา แต่เขายังคงยืนหยัดในหน้าที่ของตน จนสุดท้ายก็ช่วยเปิดเผยความชั่วร้ายของอิอาโก
Iago
อิอาโกถือเป็นตัวร้ายของเรื่อง เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์ โกหกหลอกลวง และฉ้อฉล อิอาโกมีความเกลียดชังต่อโอเธลโลอย่างสุดซึ้ง โดยวางแผนซับซ้อนเพื่อทำลายโอเธลโล ด้วยความฉลาดแกมโกงไร้ความปรานี เขาใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนของตัวละครอื่นๆ สร้างความขัดแย้งเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ชั่วร้ายของตนเอง
Brabantio
พ่อของเดสเดโมนา เป็นวุฒิสมาชิกเมืองเวนิส ในตอนแรกเขาไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานของเดสเดโมนากับโอเธลโล เนื่องจากอคติทางเชื้อชาติ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถห้ามคู่รักได้ บราบันชิโอสะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติของสังคมในยุคนั้นเกี่ยวกับการแต่งงานระหว่างเชื้อชาติ และสะท้อนธีมเรื่องอคติการเลือกปฏิบัติต่อผู้คนต่างศาสนาหรือชาติพันธุ์ ดังที่ปรากฏในบทละครนี้
Roderigo
โรเดริโกเป็นชายผู้มั่งคั่งและเขลา ผู้พยายามจะเอาชนะใจเดสเดโมนาอย่างสิ้นหวัง แต่กลับกลายเป็นเพียงเบี้ยในเกมของอิอาโก เขาหลงรักเดสเดโมนาอย่างหมดหัวใจจนถูกชักจูงได้ง่าย อิอาโกใช้ความสิ้นหวังของโรเดริโกในการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน ความไร้เดียงสาและความไว้ใจที่มีต่ออิอาโกทำให้โรเดริโกรับมือไม่ไหวต่อกลลวงที่ซับซ้อนนี้ จนท้ายที่สุดนำไปสู่จุดจบอันน่าเศร้าของเขา
The Duke od Venice
ดยุคแห่งเวนิส เป็นตัวแทนของอำนาจและกฎหมายในบทละครเรื่องนี้ เขามีบทบาทในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากการแต่งงานของโอเธลโลกับเดสเดโมนา เป็นผู้ดำเนินการพิจารณาคดีของโอเธลโลกับอิอาโก บทบาทของดยุคสะท้อนถึงค่านิยมและบรรทัดฐานในสังคมเมืองเวนิส โดยเน้นให้เห็นความแตกต่างระหว่างหน้าที่ต่อสาธารณะกับความแค้นส่วนตัว
Montano
มอนทาโนผู้ว่าการไซปรัส ซึ่งเป็นสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์ส่วนใหญ่ในบทละครเรื่องนี้ เขาเป็นบุคคลที่ได้รับความเคารพในวงการทหาร เป็นตัวละครที่เปรียบเทียบกับตัวละครอย่างแคสสิโอกับโอเธลโล มอนทาโนเป็นคนที่มีความสุขุมนุ่มลึก มีเหตุผล เขาแตกต่างจากทุกตัวละคร เพราะมีจุดยืนเป็นของตัวเอง ท่ามกลางความโกลาหลของเหตุการณ์ที่แสนวุ่นวาย จึงทำให้เขาเป็นจุดยึดเหนี่ยวของตัวละครทั้งหมด
Emilia
สาวใช้ของเดสเดโมนา เป็นภรรยาของอิอาโก เอมิเลียเป็นผู้หญิงฉลาดมีไหวพริบ แม้ว่าในตอนแรกเธอจะภักดีต่อเดสเดโมนา แต่เธอกลับกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดโดยไม่ตั้งใจในแผนการของอิอาโก อย่างไรก็ตาม เมื่อความจริงถูกเปิดเผย เอมิเลียแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและความยุติธรรม ในที่สุดเธอก็เปิดโปงความชั่วร้ายของสามี แม้จะต้องแบกรับความเสี่ยงต่อตัวเองอย่างใหญ่หลวง
Lodovico และ Gratiano
โลโดวิโก และ กราเชียโน ขุนนางชาวเวนิสที่มีบทบาทรอง โลโดวิโกเป็นลูกพี่ลูกน้องของเดสเดโมนา พวกเขาเป็นสมาชิกของคณะทูตเวนิสที่ไปเยือนไซปรัส ส่วนกราเชียโนเป็นพี่ชายของบราบันชิโอ ทั้งคู่ทำหน้าที่เป็นพยานต่อโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น ทั้งสองมีส่วนช่วยในการแก้ไขความขัดแย้งของเรื่อง
Bianca
หญิงนางโลมแห่งไซปรัส เป็นตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเปรียบเทียบกับเดสเดโมนา เธอมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับแคสสิโอ เธอถูกมองเป็นเพียงของเล่นชั่วคราว บทบาทของเบียนกาเน้นให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างความรักที่แท้จริง กับความหลงใหลเพียงผิวเผิน นั่นคือพฤติกรรมสองมาตรฐานที่สังคมปฏิบัติต่อผู้หญิงในสมัยนั้น
Othello เรื่องย่อ
บทละครเรื่อง Othello เป็นโศกนาฏกรรมที่เขียนโดย วิลเลียม เชคสเปียร์ ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวความรัก ความอิจฉา และความหึงหวงที่นำไปสู่ความพินาศ
เรื่องเริ่มต้นเมื่อ โอเธลโล นายพลชาวมัวร์แห่งกองทัพเวนิส แต่งงานกับเดสเดโมนา ลูกสาวของวุฒิสมาชิกผู้มั่งคั่งอย่างลับๆ การแต่งงานครั้งนี้ทำให้บิดาของเธอและชาวเวนิสหลายคนไม่พอใจ แต่เมื่อพวกเขาทราบว่าเดสเดโมนารักโอเธลโลจริง จึงยอมรับได้ แม้ว่าเขาจะเป็นคนต่างชาติ
อิอาโกซึ่งเป็นทหารที่รับใช้โอเธลโล เกิดความอิจฉาและไม่พอใจที่โอเธลโลไม่ได้เลื่อนขั้นให้เป็นนายทหารชั้นสูง จึงวางแผนชั่วร้ายเพื่อทำลายชีวิตของโอเธลโล ด้วยการยุแยงให้หึงหวงเดสเดโมนา โดยกล่าวหาว่าเธอมีความสัมพันธ์กับคาสสิโอนายทหารผู้ซื่อสัตย์ของโอเธลโล อิอาโกใช้เล่ห์เหลี่ยมหลายวิธีเพื่อสร้างหลักฐานปลอมให้โอเธลโลหลงเชื่อ
ในที่สุด โอเธลโลก็ถูกความหึงหวงครอบงำจนไม่อาจควบคุมอารมณ์ได้ เขาตัดสินใจสังหารเดสเดโมนา โดยเชื่อว่าเธอทรยศ แต่ไม่นานเขาก็ได้ค้นพบความจริงที่น่าสลดใจว่าภรรยาของตนบริสุทธิ์ ส่วนอิอาโกเป็นผู้สร้างเรื่องขึ้นมา หลังจากที่ทุกอย่างถูกเปิดเผย โอเธลโลรู้สึกผิดอย่างมากจึงตัดสินใจประหารตัวตายเพื่อชดใช้ในสิ่งที่เขาทำ
บทละครเรื่องโอเธลโลมีด้วยกัน 5 องก์เรื่องราวของ Othello สะท้อนถึงด้านมืดของมนุษย์และผลพวงของความอิจฉาและการแก้แค้นแต่ละองก์มีบทสรุปและประเด็นสำคัญดังนี้:
องก์ 1
เป็นการปูเนื้อเรื่อง ผู้อ่านจะได้ทำความรู้จักกับตัวละครหลัก ได้แก่ โอเธลโล เดสเดโมนา อิอาโก และแคสสิโอ องก์นี้ได้วางรากฐานของความขัดแย้งที่เป็นแก่นกลางของเรื่อง ที่จะนำไปสู่โศกนาฏกรรม เริ่มจากความไม่พอใจของอิอาโกที่มีต่อโอเธลโล ซึ่งแต่งตั้งแคสสิโอให้ดำรงตำแหน่งสูงกว่าเขา หลังจากนั้นจึงวางแผนบงการให้โอเธลโลหลงเชื่อว่าเดสเดโมนาไม่ซื่อสัตย์ เหนืออื่นใด องก์นี้ยังนำเสนอธีมของความหึงหวง การเหยียดเชื้อชาติ และการต่อสู้ของอำนาจ รวมถึงการวางโครงสร้างเพื่อนำไปสู่เหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่กำลังจะมาถึง
องก์ 2
แผนการของอิอาโกเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเขายังคงล่อลวงและบิดเบือนความคิดของคนรอบข้างอย่างต่อเนื่อง เขาเริ่มปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งความสงสัยในใจของโอเธลโลเกี่ยวกับความซื่อสัตย์ของเดสเดโมนา โดยใช้การเกี้ยวพาราสีของแคสสิโอกับเธอเป็นหลักฐาน ในขณะเดียวกัน ชื่อเสียงของแคสสิโอก็ถูกทำลาย เมื่อเขาเข้าไปพัวพันกับการทะเลาะวิวาทขณะมึนเมา ซึ่งเป็นแผนการของอิอาโกเพื่อผลักดันจุดประสงค์ของตนเอง บทนี้ช่วยเพิ่มความตึงเครียดและความน่าตื่นเต้น เมื่อเหล่าตัวละครต่างถูกดึงเข้าไปติดอยู่ในวงจรการหลอกลวงของอิอาโกอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น
องก์ 3
นี่ถือเป็นจุดหักเหสำคัญของเรื่องราว เมื่อการล่อลวงของอิอาโกมาถึงจุดสูงสุด เขาได้จุดไฟแห่งความหึงหวงในใจของโอเธลโลให้ลุกโชนขึ้น ด้วยการสร้างหลักฐานเท็จว่าเดสเดโมนานอกใจ จนทำให้โอเธลโลเผชิญหน้ากับความไม่ซื่อสัตย์ของเธอและเริ่มคลางแคลงในความภักดี ในขณะเดียวกัน อิอาโกยังยุยงแคสสิโอให้ไปขอความช่วยเหลือจากเดสเดโมนาในการฟื้นฟูชื่อเสียงของเขา เหตุการณ์นี้ยิ่งทำให้โอเธลโลสงสัยในตัวเธอมากขึ้น บทนี้ได้ลงลึกในเรื่องราวของการหลอกลวง ความเชื่อใจ และอำนาจทำลายล้างจากความหึงหวง
องก์ 4
ความตึงเครียดพุ่งสูงขึ้น เมื่อความหึงหวงของโอเธลโลผลักดันให้เขาตัดสินใจกระทำการอันรุนแรง ด้วยความเชื่อมั่นว่าเดสเดโมนาได้ทรยศเขา โอเธลโลจึงตัดสินใจจะสังหารเธอ โดยมีอิอาโกเป็นผู้ยุยงสนับสนุน เดสเดโมนาอ้อนวอนเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตน แต่โอเธลโลยังคงเชื่อมั่นว่าเธอมีความผิด ในขณะเดียวกัน เอมีเลียได้กลายเป็นเครื่องมือในแผนการของอิอาโกโดยไม่รู้ตัว เมื่อเธอเผลอมอบหลักฐานให้โอเธลโลจนนำไปใช้ในการหลอกลวงต่อไป องก์นี้จบลงด้วยความเศร้าเมื่อเดสเดโมนาถูกสังหาร ซึ่งเป็นการยืนยันถึงความบ้าคลั่งของโอเธลโล ก่อนนำไปสู่การล่มสลาย
องก์ 5
สำหรับองก์สุดท้าย ผลลัพธ์จากการล่อลวงของอิอาโกถูกเปิดเผย เมื่อโอเธลโลได้รู้ความจริงถึงการทรยศของอิอาโกและความบริสุทธิ์ของเดสเดโมนา ตัวละครต้องเผชิญหน้ากับชะตากรรมอย่างดุเดือด เมื่อโอเธลโลได้ตระหนักถึงความผิดพลาดครั้งใหญ่ของตน เขาเลือกจบชีวิตตนเอง ขณะที่อิอาโกถูกลงโทษตามความผิดที่เขาก่อ องก์นี้จบลงด้วยการคลี่คลายความขัดแย้ง เรื่องราวโศกนาฏกรรมเกิดขึ้นจากความหึงหวงและการหลอกลวง ตัวละครที่รอดชีวิตต้องเผชิญกับผลกรรม และพยายามทำความเข้าใจกับความสูญเสียมากมายที่เกิดขึ้น
ฉากสำคัญในโอเธลโล
ในบทละครเรื่อง Othello ของวิลเลียม เชคสเปียร์ มีหลายฉากที่มีความสำคัญที่สามารถขับเคลื่อนเรื่องราว ให้นำไปสู่ความซับซ้อนของตัวละครและประเด็นต่างๆ ต่อไปนี้เป็นฉากสำคัญบางส่วนของบทละครนี้
องก์ 1 ฉาก 1
เรื่องราวเริ่มต้นด้วยการเผชิญหน้าระหว่างอิอาโกและโรเดริโกบนถนนในเวนิส ฉากนี้เป็นการเปิดเผยความชั่วร้ายของอิอาโกและบอกถึงแรงจูงใจของเขาในการแก้แค้นโอเธลโล นอกจากนี้ยังเป็นการเริ่มต้นประเด็นเรื่องความขัดแย้งทางเชื้อชาติและอคติที่มีอยู่ในสังคมเวนิส
องก์ 1 ฉาก 3
บราบันชิโอพ่อของเดสเดโมนา ล่วงรู้ถึงการแต่งงานของโอเธลโลและเดสเดโมนา โอเธลโลปกป้องความรักของเขาต่อเดสเดโมนาอย่างหนักแน่น แสดงให้เห็นถึงความรักอันลึกซึ้งที่เขามี แม้ว่าจะต้องเผชิญกับการต่อต้านจากสังคม ฉากนี้ยังเป็นการบอกใบ้ถึงความขัดแย้งระหว่างโอเธลโลกับบราบันชิโอ รวมถึงประเด็นเรื่องความรักและการทรยศ
องก์ 2 ฉาก 1
ฉากนี้เกิดขึ้นที่ไซปรัส โอเธลโลกับกองทัพของเขากำลังรอคอยการมาถึงของกองเรือเติร์ก พายุในทะเลทำลายการรุกรานของเติร์ก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความวุ่นวายและความสับสน เช่นเดียวกับชีวิตของตัวละครตัวต่างๆ ที่กำลังพบกับวิบัติของความริษยาและหึงหวง ในฉากนี้ยังเป็นการนำเสนอสถานที่ต่างๆ ในไซปรัส ซึ่งมีหลายเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นในบทละคร
องก์ 3 ฉาก 3
นี่เป็นจุดเปลี่ยนของเรื่อง เมื่ออิอาโกเริ่มปลูกฝังความหึงหวงในใจของโอเธลโล โดยใช้ความเจ้าเล่ห์เป็นตัวบงการในเรื่องต่างๆ อิอาโกทำให้โอเธลโลสงสัยว่าเดสเดโมนานอกใจ โดยบอกเป็นนัยว่าเธออาจมีความสัมพันธ์กับแคสสิโอ ความหึงหวงของโอเธลโลถูกจุดขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่เหตุการณ์โศกนาฏกรรมในที่สุด
องก์ 4 ฉาก 1
โอเธลโลเผชิญหน้ากับเดสเดโมนา ผ้าเช็ดหน้าที่เขาเคยมอบให้เธอเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก ซึ่งเขาเชื่อว่าเธอได้มอบให้แคสสิโอ เดสเดโมนาพยายามปกป้องตัวเอง แต่ความสงสัยของโอเธลโลก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ฉากนี้เป็นจุดสำคัญที่แสดงให้เห็นการตกต่ำของโอเธลโล เขาเข้าสู่ความวิกลจริตและความไม่ไว้วางใจที่เพิ่มขึ้นต่อเดสเดโมนา
องก์ 5 ฉาก 2
ฉากไคลแม็กซ์ของบทละครเกิดขึ้นในฉากนี้ เมื่อโอเธลโลเผชิญหน้ากับเดสเดโมนาในห้องนอน ด้วยความหึงหวงและความโกรธเกรี้ยว โอเธลโลบีบคอเดสเดโมนาจนตายเพราะเชื่อว่าเธอนอกใจ หลังจากการฆาตกรรม โอเธลโลได้รู้ความจริงเกี่ยวกับการหลอกลวงของอิอาโกและความบริสุทธิ์ของเดสเดโมนา เรื่องราวนำไปสู่การตระหนักถึงความผิดพลาดครั้งใหญ่ของเขาในท้ายที่สุด
องก์ 5 ฉาก 2
บทละครจบลงด้วยการเปิดเผยและการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนของจิตใจ เอมิลเลียเปิดโปงความชั่วร้ายของสามี—อิอาโก ทำให้อิอาโกถูกจับกุมและได้รับโทษตามสมควร โอเธลโลรู้สึกผิด ความเสียใจถาโถมเข้าใส่ เขาตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเอง ขณะที่ตัวละครอื่นๆ ที่เหลืออยู่ต้องเผชิญหน้ากับผลกระทบจากโศกนาฏกรรมและพยายามทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ธีมหลักในเรื่องโอเธลโล
โอเธลโล เป็นหนึ่งในละครโศกนาฏกรรมชื่อดังของวิลเลียม เชคสเปียร์ บทต่อไปนี้มาดูว่าธีมหลักหลายประเด็นของบทละครสะท้อนถึงอะไรบ้าง:
ความหึงหวง
ความหึงหวงเป็นหนึ่งในประเด็นที่โดดเด่นที่สุดในเรื่อง โอเธลโล ประเด็นนี้เป็นตัวขับเคลื่อนความขัดแย้งหลักของเนื้อเรื่อง ความหึงหวงของโอเธลโลที่มีต่อเดสเดโมนา ได้รับการกระตุ้นจากสิ่งล่อลวงของอิอาโก ซึ่งนำไปสู่ผลลัพธ์อันน่าเศร้า ในทำนองเดียวกัน ความอิจฉาของอิอาโกที่มีต่อแคสสิโอและความไม่พอใจที่มีต่อโอเธลโล กลายเป็นแรงผลักดันให้เขาวางแผนการหลอกลวงที่ทำลายชีวิตของผู้คนมากมายในที่สุด
เชื้อชาติและความแปลกแยก
โอเธลโลเป็นชาวมัวร์ ซึ่งเป็นคนนอกในสังคมเวนิส ตลอดทั้งเรื่อง ตัวละครหลายตัวแสดงความดูถูกเกี่ยวกับเชื้อชาติของเขา สะท้อนให้เห็นถึงการเหยียดเชื้อชาติที่แพร่หลายในสังคมขณะนั้น เชื้อชาติของโอเธลโลกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการที่ตัวละครอื่นๆ มองเขา ซึ่งส่งผลให้เขารู้สึกไม่มั่นคงและเปราะบาง จนถูกบงการได้ง่ายจากความไม่เชื่อมั่นในชาติพันธุ์ตนเอง
ภาพลักษณ์กับความจริง
ธีมของภาพลักษณ์กับความจริง ถือเป็นความแตกต่างที่กลายเป็นหัวใจสำคัญของโอเธลโล ตัวละครมักตีความเหตุการณ์และบุคคลผิดเพี้ยนไปตามภาพลักษณ์ภายนอก ทำให้เกิดความเข้าใจผิดอย่างร้ายแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอิอาโกที่ใช้ภาพลักษณ์ปลอมๆ เพื่อหลอกลวงคนรอบข้าง สร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างสิ่งที่ดูเหมือนเป็นความจริงกับความจริงที่ซ่อนอยู่
การหลอกลวงและการชักจูง
อิอาโกเป็นตัวละครที่มีฝีมือในการชักจูงในระดับสูง เขาใช้การหลอกลวงเพื่อบรรลุถึงเป้าหมาย ความเห็นแก่ตัวของเขาชักจูงความรู้สึกและการรับรู้ของตัวละครอื่นๆ จากนั้นใช้จุดอ่อนเหล่านี้ของพวกเขามาสร้างเป็นเครื่องมือ ธีมการชักจูงนี้เน้นให้เห็นถึงพลวัตของอำนาจในความสัมพันธ์ เพื่อตอกย้ำถึงผลลัพธ์จากการหลอกลวงว่าทรงพลังต่อการทำลายล้างอย่างรุนแรงเพียงใด
ความรักและความไว้วางใจ
โอเธลโลยังสำรวจความซับซ้อนของความรักและความไว้วางใจอีกด้วย ความรักระหว่างโอเธลโลและเดสเดโมนานั้นลึกซึ้งอย่างจริงแท้ แต่สุดท้ายกลับถูกทำลายด้วยความหึงหวงและความหวาดระแวง การสูญเสียความไว้วางใจระหว่างตัวละคร โดยเฉพาะระหว่างโอเธลโลกับเดสเดโมนา เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของความสัมพันธ์มนุษย์ในเชิงโศกนาฏกรรม
อำนาจและอำนาจในการควบคุม
พลวัตของอำนาจ ทั้งในความสัมพันธ์ส่วนตัวและโครงสร้างของสังคม เป็นอีกประเด็นสำคัญในเรื่อง โอเธลโลมีอำนาจในฐานะผู้นำทหาร แต่สถานะนี้ก็ทำให้เขาถูกชักจูงได้ง่ายโดยคนรอบข้าง แรงผลักดันของอิอาโกในการแสวงหาอำนาจและการควบคุม เป็นแรงขับเคลื่อนหลักของความขัดแย้งในเรื่อง สะท้อนถึงอิทธิพลที่ชักนำให้เกิดความเสื่อมทรามจากความทะเยอทะยาน
โชคชะตากับอิสรภาพในการเลือก
โอเธลโล ปฏิสัมพันธ์ระหว่างโชคชะตากับอิสรภาพในการเลือก ตัวละครเลือกกระทำบางสิ่งที่นำไปสู่โศกนาฏกรรม แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าพวกเขาไม่ต่อต้านชะตากรรมใดๆ เลยเพื่อไม่ให้ไปสู่หายนะ ความพินาศของโอเธลโลเกิดจากทั้งการกระทำของเขาเองและการบงการของคนอื่น ก่อนนำไปสู่การตั้งคำถามว่ามนุษย์มีส่วนในการกำหนดชะตาของตนเองมากน้อยเพียงใด
ข้อคิดสุดท้ายจากเรื่อง Othello
การศึกษาผลงานเรื่องโอเธลโล จากหลากหลายผู้เชี่ยวชาญด้านวรรณกรรมทั่วโลก บทละครเรื่องนี้ยังทรงคุณค่าจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากเรื่องราวได้กล่าวถึงประเด็นที่ยังคงถกเถียงกันอยู่ เช่น ความหึงหวง การเหยียดเชื้อชาติ และวิธีที่ผู้คนสามารถชักจูงกันให้เชื่อแม้จะเป็นสิ่งหลอกลวง ในโลกปัจจุบันเรายังคงเผชิญกับปัญหาเกี่ยวกับเชื้อชาติและอัตลักษณ์ ข้อความจากละครเรื่องนี้แสดงถึงธีมที่เกี่ยวข้องกับความหึงหวงและอคติ สิ่งเหล่านี้สามารถทำลายชีวิตผู้คนได้อย่างทรงพลัง ตัวละครอย่างโอเธลโล ต้องต่อสู้กับอัตลักษณ์และการเข้าใจผู้อื่น ผู้คนจำนวนมากยังคงถูกครอบงำจากความฉ้อฉล รวมถึงการโกหกหลอกลวง ละครเรื่องนี้ทำให้เราตระหนักถึงความสำคัญของการไว้วางใจซึ่งกันและกัน รวมถึงการเข้าใจมุมมองของความสัมพันธ์ต่อผู้คน เชื่อมั่นต่อความซื่อสัตย์หรืออย่าหลงเชื่อคำลวง นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมละครเรื่องนี้ยังมีความหมายต่อผู้คนในปัจจุบัน และอีกไม่นานเราจะได้อ่านบทละครเรื่องนี้ในภาษาไทย จากสำนักพิมพ์เม่นวรรณกรรม