นับตั้งแต่การหายตัวไปของ ริชชี เอ็ดเวิร์ด – Richey Edwards ไม่มีใครพบเห็นนักกีตาร์ นักแต่งเพลง ที่มีบุคลิกแปลกแยกต่อสังคม อดีตสมาชิกของ Manic Street Preachers คนนี้อีกเลย เรื่องราวของเขากลายเป็นตำนานลึกลับ การหายตัวไปเป็นเหมือนอากาศธาตุ ไม่มีใครพบร่องรอย ไม่พบร่างกาย บางคนเชื่อว่าเขายังมีชีวิตอยู่ ซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้ แต่ชีวิตของริชชีจะเป็นอย่างไรกันแน่ มีเพียงภาพปะติดปะต่อก่อนวันที่เขาจะหายตัวไปอย่างลางเลือน
วันที่ริชชี่ เอ็ดเวิร์ดหายตัวไป – Manic Street Preachers
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 1995 ริชชี่ เอ็ดเวิร์ดส์ นักกีตาร์ของวง Manic Street Preachers หายตัวไปจากห้องพักในโรงแรมเอ็มบาสซีในกรุงลอนดอน ต่อมาได้พบรถของเขาจอดอยู่ใกล้กับสะพาน Severn ซึ่งเป็นจุดฆ่าตัวตายที่มีชื่อเสียง หนังสือ Withdrawn Traces ซึ่งเขียนขึ้นโดยความร่วมมือของราเชล น้องสาวของริชชี พวกเขาสามารถเข้าถึงเอกสารส่วนตัวของริชชีได้ ทำให้เราเข้าใกล้ความจริงมากขึ้นกว่าเดิม บันทึกและเอกสารในหนังสือทำให้สามารถเข้าใกล้วันที่ริชชี่หายตัวไป
ริชชีหวั่นกลัวการเดินทางไปอเมริกา เขาโทรศัพท์ไปหาแม่เพื่อเล่าถึงความกังวลใจในการเดินทาง จากนั้นเขากับเจมส์กลับมาที่ที่จอดรถใต้ดินของโรงแรมเอ็มบาสซี เพื่อฟังเดโมที่บันทึกเสียงจากห้องอัด The House in the Woods
เจมส์ให้สัมภาษณ์นิตยสาร Q ในปี 2016 ว่า “ผมพูดว่า ‘อันไหนที่นายชอบที่สุด’ ทุกคนโอเคกันหมด แต่ Small Black Flowers เป็นเพลงที่ชอบมากๆ ริชชีตอบด้วยการยักไหล่ เขามีท่าทีสับสนเล็กน้อยเกี่ยวกับส่วนที่เหลือ”
ทั้งสองเช็คอินห้องที่อยู่ติดกัน ริชชีอยู่ที่ห้อง 561 พวกเขานัดกันออกไปหาร้านกาแฟ ผับและร้านอาหารที่อยู่ใกล้เคียงในย่านควีนส์เวย์
“เขาโทรหาแม่ในเย็นวันนั้น และบอกเธอว่าเขาไม่อยากไปอเมริกา” ราเชลเล่า มันเป็นการสนทนาครั้งสุดท้ายที่เธอได้คุยกับริชาร์ด แต่เธอไม่เคยผิดสังเกตว่าจะเกิดเรื่องร้ายแรง
เจมส์เป็นคนสุดท้ายที่ได้เห็นริชชีมีชีวิตอยู่ เป็นเวอร์ชันที่สื่อมวลชนนำเสนอช่วงสุดท้ายของริชชีต่อสาธารณะ
อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่เจมส์ออกไปจากโรงแรมและกลับเข้ามา ริชชีมีแขกมาเยี่ยมที่ห้องพัก สิ่งที่ครอบครัวเอ็ดเวิร์ดมาทราบในภายหลัง ก่อนที่ทางวงจะเดินทางมากันครบ เย็นวันนั้นทางวงยืนยันกับราเชลว่าริชชีอยู่ในห้องกับผู้หญิงชื่อวิเวียน
ราเชลไม่สามารถยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างวิเวียนกับริชชีได้ว่าลึกซึ้งเพียงไร เพราะทางวงบอกรายละเอียดเพียงเล็กน้อย วิเวียนไม่ได้ถูกกล่าวถึงในแฟ้มข้อมูลของตำรวจที่ราเชลเข้าถึงในช่วงนั้น เชื่อกันว่าวิเวียนเป็นแฟนเพลงตัวยงที่กลายมาเป็นเพื่อน ราเชลพยายามติดต่อกลับไปหาวิเวียนอยู่หลายครั้งแต่ไร้ผล สำหรับครอบครัวเอ็ดเวิร์ดส์ยังคงไม่แน่ใจว่า วิเวียนผู้ลึกลับคือใครกันแน่
“เรายังไม่รู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้น” ราเชลกล่าว “ฉันได้พูดคุยกับคนอื่นๆ ที่มีสมาชิกในครอบครัวหายตัวไปและโดยปกติพวกเขาจะได้รับความชัดเจนของคนที่พวกเขารักมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป 24 ชั่วโมง” แม้ว่าเวลาจะผ่านไปหลายปีแล้วก็ตาม มีการเปิดเผยข้อมูลใหม่เกี่ยวกับคืนที่ริชาร์ดหายตัวไป “หลังจากที่ได้อ่านบทสัมภาษณ์ทางนิตยสารของเจมส์แล้ว เรารู้ว่าทั้งสองคนใช้เวลาฟังเพลงใหม่ด้วยกันในที่จอดรถใต้ดินของโรงแรมแอมบาสซี”
ไม่ชัดเจนในในเรื่องเวลาที่วิเวียนมาพบริชชีนานแค่ไหน ไม่เป็นที่แน่ใจว่าเขาอยู่กับเธอที่โรงแรม และเย็นวันนั้นทั้งสองออกไปข้างนอกด้วยกันหรือไม่
การสูญหายของริชชี
เช้าวันรุ่งขึ้น เจมส์ไปรอเพื่อนที่ล็อบบี้ ปกติริชชีจะเป็นคนตรงต่อเวลา แต่เขาไม่มาปรากฏตัว เจมส์รู้สึกกังวล เมื่อเขาโทรเข้าไปที่ห้องแต่ไม่มีการตอบรับจากห้องของริชชี เจมส์ขอให้พนักงานใช้มาสเตอร์คีย์เพื่อปลดล็อก เมื่อเข้าไปก็ไม่มีวี่แววของริชชีอยู่ในนั้น
พวกเขาพบอ่างที่รองน้ำจนเต็มและกล่องของขวัญที่บรรจุสิ่งของหลายอย่างเช่น วิดีโอ หนังสือ รูปถ่าย และโน้ต ที่เขียนด้วยลายมืออ่านง่ายๆ ว่า ‘I love you’
ของทั้งหมดนั้นได้รับการจ่าหน้าซองเพื่อส่งถึง ‘โจ’ แฟนเก่าของริชชี ห่อของเหมือนของขวัญ กล่องตกแต่งด้วยถ้อยคำบทกวีและภาพคอนลาจที่คลุมเครือ ซึ่งรวมถึงทุกอย่างตั้งแต่ตัวการ์ตูนไปจนถึงคฤหาสน์ที่ทรุดโทรม
จากใบเสร็จรับเงินของริชชีแสดงให้เห็นว่า ในวันก่อนการหายตัวไป เขาใช้เงินไป 9.60 ปอนด์ เพื่อตกแต่งกล่องด้วยการซื้อเครื่องพิมพ์ของเซอร์รีย์ (Surrey printers) เขาจ่ายเงินเพื่อการตกแต่งภาพถ่ายบางส่วนบนกล่อง? ถ้าใช่ ริชชีวางแผนทิ้งของขวัญสำหรับการจากลานี้ให้โจมานานแค่ไหนแล้ว?
24 ชั่วโมงต่อมา มาร์ติน ฮอลล์ ผู้จัดการวงได้แจ้งรายงานคนหายที่สถานีตำรวจถนนฮาร์โรว์ พนักงานที่ทำงานใน Hall or Nothing (บริษัทที่ประสานงานการประชาสัมพันธ์สื่อในสหราชอาณาจักรสำหรับศิลปินและงานสำคัญต่างๆ) ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงรายนามโทรศัพท์ของผู้ติดต่อเข้ามา ริชชีโทรเข้าไป
แต่ไม่มีใครรับสายของเขา
ราเชลเล่าว่าในตอนแรกเกรแฮม เอ็ดเวิร์ดส์ (พ่อของริชชี) ไม่เต็มใจที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อ “พ่อมีความเห็นว่าตำรวจอยู่ที่นั่นเพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรม และเขารู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด เขาเขียนบทความลงในเดลี่เมล์ว่า “ริชาร์ดโปรดติดต่อกลับมา” และไปที่ Red Dragon Radio เพื่ออ้อนวอนคนที่พบเห็น พ่อของฉันรู้สึกว่าริชาร์ดเป็นผู้ใหญ่แล้ว เขาสามารถตัดสินใจด้วยตัวเองได้…แต่พ่อก็รู้ว่าริชชีป่วย ดังนั้นมันเป็นการตัดสินใจของเขาเองทั้งหมดจริงหรือ”
การสูญหายของเขา อาจจะมาจากประวัติปัญหาสุขภาพจิตและการทำร้ายตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงเหตุการณ์ในปี 1991 เมื่อริชชีสลักวลี “4REAL” ไว้บนแขนเพื่อพิสูจน์จุดยืนของเขากับวง
เจมส์เดินทางไปอเมริกาเพียงลำพัง ส่วนนิกกี้ได้โทรศัพท์ไปยังโรงแรมหลายแห่งในอังกฤษ เพื่อตรวจสอบว่าริชชีได้เช็คอินหรือไม่ เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ตำรวจคาร์ดิฟฟ์ได้ออกแถลงการณ์ต่อสาธารณะเพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับริชชี:
“เจ้าหน้าที่ตำรวจห่วงใยในการสืบหาตัว Richard James Edwards สมาชิกวงดนตรี ‘Manic Street Preachers’ ที่หายตัวไปจากพื้นที่ลอนดอนตั้งแต่วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ 1995 เขาหายตัวไปจากโรงแรมแอมบาสซี ลอนดอน เวลา 7.00 น. เป็นที่ทราบกันดีว่าในวันเดียวกันนั้น เขากลับไปที่บ้านในคาร์ดิฟฟ์ และเชื่อว่ายังคงครอบครองรถยนต์ Vauxhall Cavalier สีเงิน – หมายเลขทะเบียน: L519 HKX
ครอบครัว สมาชิกในวง และเพื่อนๆ ของริชาร์ด กังวลในเรื่องความปลอดภัยและสวัสดิภาพของเขา และเน้นว่าเราจะไม่กดดันให้เขากลับมาหากไม่ต้องการ พวกเขาเน้นว่าความเป็นส่วนตัวจะได้รับการปกป้องตลอดเวลา
ตำรวจขอให้ใครก็ตามที่เห็นริชาร์ด ผู้ซึ่งรู้ที่อยู่ของเขา หรือผู้เห็นรถของเขา ติดต่อกลับมาที่สถานีตำรวจกลางคาร์ดิฟฟ์ เบอร์โทรศัพท์ 0222 22211 ต่อ โต๊ะอาชญากรรม หรือสำนักงาน CID
หากริชาร์ดได้ยินหรือเห็นคำประกาศนี้ ครอบครัวและเพื่อนๆ อยากให้เขาติดต่อกลับ ไม่ว่าจะเป็นหนึ่งในครอบครัวหรือสมาชิกวง รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้รู้ว่าเขาปลอดภัยและหายดี พวกเขาต้องการย้ำอีกครั้งว่าริชาร์ดจะไม่ถูกกระตุ้นให้กลับมาหรือเปิดเผยที่อยู่ของเขาหากไม่ต้องการทำเช่นนั้น”
ไม่กี่วันต่อมาก็มีข่าวว่าได้พบรถ Vauxhall Cavalier ของริชชี จอดอยู่ที่ Aust Services ทางฝั่งอังกฤษทางข้ามสะพาน Severn ข้างในรถพบรูปถ่ายของริชชีถ่ายพร้อมครอบครัวช่วงหลังคริสต์มาส เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พนักงานจอดรถคนหนึ่งสังเกตเห็นว่ารถของริชชีจอดทิ้งเอาไว้ครั้งแรกเมื่อสามวันก่อนในวันวาเลนไทน์
เอ็ดเวิร์ดได้รับการประกาศว่าเสียชีวิตอย่างเป็นทางการตามข้อกฎหมายในเดือนพฤศจิกายน 2008 แต่ราเชลน้องสาวของเขายืนยันว่าคดีนี้ไม่ได้รับการสืบสวนอย่างตรงไปตรงมา ในปี 2018 เธอได้เปิดเผยหลักฐานใหม่ที่อ้างว่าเวลาที่ทุกคนคิดว่าริชชีฆ่าตัวตายโดยกระโดดลงที่สะพานเซเวิร์นนั้นผิด
หนังสือ Withdrawn Traces พิมพ์ครั้งแรกในปี 2019 เขียนโดย Sara Hawys Roberts และ Leon Noakes โดยได้รับความร่วมมือจากราเชลน้องสาวของริชชี ได้นำเสนอหลักฐานใหม่ รวมถึงทฤษฎีที่ริชชีไม่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค Aspergers Syndrome ซึ่งอาจอธิบายความปรารถนาที่จะตัดขาดจากเพื่อนฝูงของเขาและครอบครัวเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า
ช่วงที่ริชชีสูญหายไป Manic Street Preachers กำลังประสบความสำเร็จกับอัลบั้มที่สาม The Holy Bible โรเบิร์ตส์ผู้เขียนหนังสือเล่มดังกล่าวกล่าวว่า: “ริชชีเพิ่งเลิกกับแฟนสาว วงดนตรีไม่ได้ไปในทิศทางที่เขาต้องการ เขาไม่อยากจะเป็นแบบนั้น เขาต้องการแยกตัวจากวง
“เขาไม่ได้รู้สึกว่าเป็นคนนอกของวง และเขาได้ทุ่มเททุกอย่างให้กับมันอย่างจริงจัง ฉันคิดว่าเขาอาจจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนล้มเหลว ดังนั้น แทนที่จะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างมืดมนและล้มเหลว เขากลับเอาตัวเองออกจากสถานการณ์นั้น”
หลังจากการหายตัวไปของริชชี สมาชิกอีกสามคนที่เหลือ – เจมส์ ดีน แบรดฟิลด์, นิคกี ไวร์ และฌอน มัวร์ – กลับมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อเข้าห้องบันทึกเสียง อัลบัม Everything Must Go ออกวางจำหน่ายครั้งแรกหลังยุคริชชี ซิงเกิล A Design For Life ของพวกเขาขึ้นไปสู่อันดับ 2 ของตาราง The Manics ออกอัลบั้มสตูดิโอต่อมาอีกนับ 10 อัลบั้มโดยไม่มีเอ็ดเวิร์ด แม้ว่าอัลบัม Journal For Plague Lovers ในปี 2009 จะมีเนื้อเพลงที่เขียนโดยริชชีก็ตาม